คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7988/2553

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ป.วิ.พ. มาตรา 229 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้อุทธรณ์ซึ่งอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นที่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือมีผลทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นถูกยกเลิกเพิกถอนไปต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ แม้อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเป็นอุทธรณ์คำสั่งกรณีขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยก็ต้องวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนดังกล่าว เพราะหากศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามอุทธรณ์ของจำเลยก็จะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้แก่โจทก์เป็นอันต้องถูกเพิกถอนไปทันที อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงเท่ากับเป็นการอุทธรณ์ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นอยู่ในตัว จำเลยจึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมใช้แทน ดังกล่าวมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์คำสั่งนั้นด้วย เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในชั้นตรวจคำฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยได้ทันทีโดยไม่ต้องกำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนเสียก่อน เพราะกรณีมิใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยไม่ถูกต้องครบถ้วนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 ซึ่งศาลต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบที่จะพิพากษายกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยโดยไม่ต้องกำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนหรือต้องแจ้งให้จำเลยทราบก่อนแต่อย่างใด

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินคืนให้แก่โจทก์ จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาโดยจำเลยขาดนัดให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทเพื่อปลดจำนองให้แก่โจทก์ หากไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 1,500 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การเพราะจำเลยไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านตามฟ้อง จำเลยไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องของโจทก์และจำเลยในฐานะผู้รับจำนองยังไม่ได้รับชำระหนี้จากโจทก์ โจทก์มีหนี้ค้างชำระจำเลยอยู่อีก 250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ขอให้ไต่สวนคำร้องและอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ด้วย
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยประสงค์เพียงอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นว่า จำเลยไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ เพื่อจำเลยจะได้มีโอกาสยื่นคำให้การและต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จำเลยมิได้มีเจตนาอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น อันมีความหมายว่า ในกรณีนี้จำเลยไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ และหากศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่าจำเลยจะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็น่าจะแจ้งให้จำเลยทราบก่อนนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย ดังนั้น ในกรณีขาดนัดยื่นคำให้การ หากปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งใดๆ ที่กำหนดให้ผู้อุทธรณ์ต้องใช้ค่าธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนดังกล่าวมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์คำสั่งนั้นด้วย เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในชั้นตรวจ คำฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยได้ทันที โดยไม่ต้องกำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนเสียก่อน เพราะกรณีมิใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยไม่ถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องครบถ้วนได้เสียก่อนที่จะมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ และการวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนดังกล่าว หาใช่ต้องดูเจตนาของผู้อุทธรณ์ว่าประสงค์จะอุทธรณ์เฉพาะเรื่องจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ เพราะหากศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่าจำเลยมิได้ขาดนัดยื่นคำให้การและมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามอุทธรณ์ของจำเลย ก็จะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้แก่โจทก์เป็นอันต้องถูกเพิกถอนไปทันที อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเท่ากับเป็นการอุทธรณ์ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นอยู่ในตัวนั่นเอง คดีนี้แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยขึ้นมาแต่อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายใด ๆ ที่จะต้องกำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนหรือต้องแจ้งให้จำเลยผู้อุทธรณ์ทราบก่อนเช่นกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share