คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6126/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 248 ให้ลงโทษผู้กระทำความผิดฐานปลอมเงินตราตามมาตรา 240 หรือผู้กระทำความผิดฐานแปลงเงินตราตามมาตรา 241 หรือผู้กระทำความผิดฐานปลอมหรือแปลงเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 247 ซึ่งได้กระทำความผิดตามมาตราอื่นที่บัญญัติไว้ในหมวด 1 ลักษณะ 7 อันเกี่ยวกับสิ่งที่ตนปลอมหรือแปลงนั้นตามมาตรา 240 มาตรา 241 หรือมาตรา 247 แต่กระทงเดียว ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244,246 และมาตรา 247 นั้น เป็นการพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมกระทงหนึ่ง และฐานมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในการปลอมเงินตราดังกล่าวอีกกระทงหนึ่ง โดยศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดฐานปลอมหรือแปลงเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 247 กรณีจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 248 ที่จะต้องลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 247 แต่กระทงเดียว การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240, 244, 246, 247 และริบของกลางทั้งหมด

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานปลอมเงินตราเป็นธนบัตรซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกใช้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240ประกอบ 247 ฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราที่จำเลยที่ 1 ทำปลอมขึ้นดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 244 ประกอบ 83 และฐานทำและมีเครื่องมือสำหรับทำปลอมเงินตราดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 246 จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามมาตรา 240 ประกอบ 247 และได้กระทำความผิดตามมาตรา 244, 246เกี่ยวกับเงินตราที่จำเลยที่ 1 ได้ทำปลอมขึ้นด้วย ซึ่งความผิดตามมาตรา 244, 246 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวดเดียวกับมาตรา 240 ดังนั้นจึงให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 240 ประกอบ 247 แต่กระทงเดียวตามมาตรา 248 ลงโทษจำคุก 10 ปี และมีความผิดฐานปลอมเอกสารราชการตามมาตรา 265 จำคุก 3 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 13 ปี จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราอันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมเป็นความผิดตามมาตรา 244 ประกอบ 247 ลงโทษจำคุก 2 ปี ความผิดตามข้อหาอื่นให้ยกริบของกลาง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244, 246 ประกอบด้วยมาตรา 247 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกา จำคุก 4 ปีฐานมีเครื่องมือเพื่อใช้ในการปลอมเงินตราของประเทศสหรัฐอเมริกา จำคุก 6 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 10 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244,246, 247 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกาจำคุก 4 ปี ฐานมีเครื่องมือเพื่อใช้ในการปลอมเงินตราของประเทศสหรัฐอเมริกา จำคุก 6 ปี รวม 2 กระทง รวมจำคุก10 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก เป็นการไม่ชอบ เพราะความผิดมาตรา 244ประกอบมาตรา 247 บัญญัติไว้ในลักษณะ 7 หมวด 1 หมวด เดียวกับมาตรา 246 ประกอบมาตรา 247 ด้วย ศาลอุทธรณ์จึงต้องวางโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 244ประกอบมาตรา 247 แต่เพียงกระทงเดียวตามมาตรา 248 การกระทำของจำเลยที่ 1มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เพราะมาตรา 248 ระบุไว้โดยเฉพาะให้ลงโทษการกระทำความผิดตามมาตรา 247 แต่กระทงเดียวในปัญหานี้ เห็นว่า ที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 248 บัญญัติว่า “ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรา 240มาตรา 241 หรือมาตรา 247 ได้กระทำความผิดตามมาตราอื่นที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้อันเกี่ยวกับสิ่งที่ตนปลอมหรือแปลงนั้นด้วย ให้ลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 240มาตรา 241 หรือมาตรา 247 แต่กระทงเดียว” นั้น หมายความว่าเมื่อตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 248 ให้ลงโทษผู้กระทำความผิดฐานปลอมเงินตราตามมาตรา 240 หรือผู้กระทำความผิดฐานแปลงเงินตราตามมาตรา 241 หรือผู้กระทำความผิดฐานปลอมหรือแปลงเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 247ซึ่งได้กระทำความผิดตามมาตราอื่นที่บัญญัติไว้ในหมวด 1 ลักษณะ 7 อันเกี่ยวกับสิ่งที่ตนปลอมหรือแปลงนั้นตามมาตรา 240 มาตรา 241 หรือมาตรา 247 แต่กระทงเดียวแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244, 246 และมาตรา 247 นั้น เป็นการพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม และฐานมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในการปลอมเงินตราดังกล่าว โดยศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษาว่าจำเลยที่ 1ได้กระทำความผิดฐานปลอมหรือแปลงเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 247 แต่อย่างใด กรณีจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 248 ที่จะต้องลงโทษจำเลยที่ 1ตามมาตรา 247 แต่กระทงเดียว

พิพากษายืน

Share