คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความได้ขอให้ศาลรอฟังคำพิพากษาคดีอาญา เมื่อศาลอาญาได้พิพากษาชี้ขาดคดีอาญาแล้ว โจทก์ได้แถลงต่อศาลว่าศาลอาญาได้ชี้ขาดว่าผู้ร้องคดีนี้ได้เข้ามาอยู่บ้านรายนี้โดยอาศัยจำเลย ผู้ร้องมิได้โต้แย้งและเมื่อศาลชั้นต้นรับฟังผู้ร้องก็มิได้คัดค้าน ตลอดจนคำอุทธรณ์ของผู้ร้องก็มิได้โต้แย้งความข้อนี้ ฉะนั้นแม้ว่าโจทก์จะได้อ้าง แต่ยังไม่ได้ทำพิธีเรียกสำนวนมา คดีก็ย่อมรับฟังได้ว่าศาลอาญาได้พิพากษาไว้ดังโจทก์แถลงจริง
การวินิจฉัยคดีแพ่งต้องถือข้อเท็จจริงตามคำชี้ขาดของศาลในคดีอาญาซึ่งมีประเด็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันและคู่ความชุดเดียวกัน

ย่อยาว

เดิมศาลแขวงพระนครใต้พิพากษาขับไล่จำเลย กับบริวารออกจากห้องเช่าตามฟ้อง และออกคำบังคับให้ผู้ร้องทั้งสอง ซึ่งถือเป็นบริวารของจำเลยออกไปด้วยผู้ร้องคัดค้านว่า ตนไม่ใช่บริวารของจำเลย แต่เป็นผู้เช่าบ้านรายนี้จากโจทก์โดยตรงและขอให้ศาลรอการไต่สวนไว้รอฟังคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีที่ผู้ร้องได้ฟ้องโจทก์และจำเลยในคดีนี้ หาว่าสมคบกันกระทำหลักฐานเท็จ ศาลได้รอการไต่สวนไว้ตามขอ ต่อมาศาลอาญาพิพากษาว่า ผู้ร้องเข้ามาอยู่ในบ้านรายนี้ โดยอาศัยจำเลยในคดีนี้ หาใช่เช่าจากโจทก์ในคดีนี้โดยตรงไม่ จึงให้ยกฟ้อง โจทก์จึงร้องขอให้ดำเนินการบังคับขับไล่ผู้ร้องต่อไป ศาลชั้นต้นได้สอบถามโจทก์ และผู้ร้องแล้ว ให้โจทก์ออกหมายบังคับคดีเอาแก่ผู้ร้องทั้ง 2 ให้ผู้ร้องออกจากที่พิพาทภายใน 7 วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนแล้ว มีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาในคดีอาญา ตามที่โจทก์แถลงต่อศาลว่าศาลอาญาได้ชี้ขาดแล้วว่า ผู้ร้องในคดีนี้ได้เข้ามาอยู่ในบ้านรายนี้ โดยอาศัยนางประไพจำเลยนั้นผู้ร้องมิได้โต้แย้งเป็นอย่างอื่น และเมื่อศาลชั้นต้นฟังแล้ว ผู้ร้องมิได้คัดค้านตลอดจนคำอุทธรณ์ของผู้ร้องก็มิได้โต้แย้งความข้อนี้ แม้โจทก์จะได้อ้าง แต่ยังมิได้ทันทำพิธีเรียกสำนวนนั้นมาก็ดี คดีก็ย่อมรับฟังได้ว่า ศาลอาญาได้พิพากษาไว้ดังที่โจทก์แถลงจริง เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งขับไล่ผู้ร้อง โดยถือเอาข้อเท็จจริงตามคำชี้ขาดของศาลในคดีอาญาซึ่งมีแต่ประเด็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน และคู่ความชุดเดียวกันนั้น จึงเป็นการชอบแล้ว

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share