แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายสำหรับสิทธิเรียกร้องของบริษัท น. จำเลยที่ 1 ในคดีของศาลล้มละลายกลางหมายเลขแดงที่ ฟ.45/2553 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องระหว่างเจ้าพนักงานบังคับคดีกับโจทก์โดยเฉพาะ มิได้กระทบกระเทือนต่อสิทธิของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ทั้งในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็มิได้มีการวินิจฉัยกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษากลับว่า โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม โดยจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ยอมชำระเงินให้โจทก์ 1,187,500,000 บาท ภายในวันที่ 11 กันยายน 2558 โจทก์ตกลงชำระเงินให้จำเลยที่ 1 เป็นเงิน 20,000,000 บาท และตกลงโอนหุ้นในบริษัทจำเลยที่ 1 จำนวน 7,042,964 หุ้น ให้แก่บริษัทแกรนด์โรยัล กรุ๊ป จำกัด ยอมให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 1 ยอมชำระเงินให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นเงิน 30,000,000 บาท และยอมโอนสิทธิเรียกร้องในการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ 2062/2556 ให้จำเลยที่ 6 โจทก์และจำเลยทั้งหกไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหาย สละสิทธิทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับมูลเหตุที่พิพาทในคดีและไม่นำคดีไปฟ้องเรียกร้องกันทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อมาวันที่ 14 กันยายน 2558 โจทก์ยื่นคำขอออกหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี วันที่ 2 ตุลาคม 2558 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดสิทธิเรียกร้องของบริษัทนัดดาศรี จำกัด จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สวมสิทธิและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการในคดีของศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.45/2553 ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายบังคับคดีดังกล่าว เนื่องจากคำร้องขอออกหมายบังคับคดีของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275 (3) (เดิม) ต่อมาสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 มีหมายแจ้งโจทก์ว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนหมายบังคับคดี โจทก์จึงไม่มีอำนาจดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงต้องถอนการอายัดสิทธิเรียกร้องของบริษัทนัดดาศรี จำกัด จำเลยที่ 1 และโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมถอนอายัดไม่มีการจำหน่าย ตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้งดเว้นหรือยกเว้นการคิดค่าธรรมเนียมถอนอายัดไม่มีการจำหน่าย อ้างว่าเป็นการอายัดที่ต้องห้ามตามกฎหมาย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการอายัดเงินแล้วไม่มีการจำหน่าย ตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้อำนาจโจทก์ยื่นคำร้องขอยกเว้นไม่เสียค่าฤชาธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาล จึงให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายบังคับคดี ลงวันที่ 17 กันยายน 2558 เนื่องจากคำขอออกหมายบังคับคดีของโจทก์ไม่ได้ระบุโดยชัดแจ้งถึงวิธีการบังคับคดีซึ่งขอให้ออกหมายนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275 (3) (เดิม) ดังนี้ การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องของบริษัทนัดดาศรี จำกัด จำเลยที่ 1 ตามหมายบังคับคดีที่ออกโดยไม่ชอบดังกล่าว จึงไม่มีผลเป็นการอายัด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องถอนการอายัดตามคำสั่งของศาลชั้นต้น จึงถือไม่ได้ว่ามีกรณีอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในส่วนนี้จากโจทก์ไม่ได้ พิพากษากลับว่า โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายสำหรับสิทธิเรียกร้องของบริษัทนัดดาศรี จำกัด จำเลยที่ 1 ในคดีของศาลล้มละลายกลางหมายเลขแดงที่ ฟ.45/2553 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายสำหรับสิทธิเรียกร้องของบริษัทนัดดาศรี จำกัด จำเลยที่ 1 ในคดีของศาลล้มละลายกลางหมายเลขแดงที่ ฟ.45/2553 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องระหว่างเจ้าพนักงานบังคับคดีกับโจทก์โดยเฉพาะ มิได้กระทบกระเทือนต่อสิทธิของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ทั้งในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็มิได้มีการวินิจฉัยกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษากลับว่าโจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ