คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ศาลจะพิพากษาและหมายบังคับคดีไปแล้ว หากมีพฤติการณ์ภายหลังเปลี่ยนแปลงไป อันทำให้การบังคับคดีไร้ผลแล้ว คู่ความที่ถูกศาลบังคับนั้นอาจขอให้ศาลไต่สวนเพื่องดการ บังคับคดีเสียได้
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลขอให้งดการบังคับคดี ศาลเรียกโจทก์จำเลยมาพร้อมกัน จำเลยกลับยอมปฏิบัติตามบังคับศาล โดยขอให้โจทก์ผ่อนระยะเวลาให้ จนศาลสั่งให้เป็นไปตามที่ตกลงกันแล้ว ดังนี้ จำเลยจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลงดการบังคับคดีอีก โดยอ้างเหตุอย่างเดิมไม่ได้ เพราะถือได้ว่า จำเลยได้สละสิทธิในการที่จะให้งดการบังคับคดีเสียแล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้น พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกที่โจทก์เช่ามา โดยฟังว่าจำเลยอาศัยโจทก์และสั่งบังคับคดีภายใน ๑๕ วัน
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า เจ้าของห้องเช่าได้ตกลงทำหนังสือให้จำเลยเช่าห้องรายนี้แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิในห้องรายนี้ต่อไป
โจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าจำเลยอุบายต่าง ๆ เพื่อขัดขืนคำสั่งศาล และขอให้ศาลสั่งขับจำเลย
ถึงวันนัดโจทก์จำเลยมาศาล โจทก์ขอให้ศาลบังคับกันไปทีเดียว จำเลยขอเวลา ๑๕ วัน โจทก์ไม่ยอม โจทก์ผ่อนเวลาให้ ๗ วัน จำเลยยอมตามที่โจทก์ให้เวลานี้ ศาลจึงสั่งให้เป็นไปตามที่คู่ความตกลงกัน
ครั้นต่อมาอีก ๕ วัน จำเลยยื่นคำร้องอีกว่าเจ้าของห้องเช่าเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์แล้ว และได้ทำสัญญาเช่าให้จำเลยเช่าแล้ว ฯลฯ จึงขอให้ศาลไต่สวนและสั่งเพิกถอนคำบังคับจำเลยออกจากตึกพิพาทนี้เสีย
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ศาลจะพิพากษาและหมายบังคับคดีไปแล้ว หากมีพฤติการณ์ภายหลังเปลี่ยนแปลงไป อันทำให้การบังคับคดีไร้ผล คู่ความที่ถูกศาลบังคับนั้นอาจขอให้ศาลไต่สวนเพื่องดการบังคับเสียได้ แต่สำหรับคดีนี้จำเลยได้ยื่นคำร้องของดการบังคับคดีครั้งหนึ่งแล้ว ครั้นศาลเรียกมาสอบถามจำเลยกลับตกลงยอมออกจากห้องพิพาทภายใน ๗ วัน แต่แล้วอีก ๕ วันจำเลยกลับยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยอ้างเหตุผลอย่างเดิมนั้นอีก ตามพฤติการณ์ดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้จำเลยได้สละสิทธิในการที่จะให้งดการบังคับคดีเสียแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องไต่สวนให้อีกต่อไป
จึงพิพากษายืน

Share