แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จ้างเหมาจำเลยทำเคียวเกี่ยวข้าว จำเลยทำแล้วมาส่งมอบแต่ไม่ถูกต้องตามที่ตกลงสัญญากัน ดังนี้ กรณีเข้าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 215 ที่ว่า เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งลูกหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นได้และเมื่อโจทก์นำสืบถึงจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์จะได้รับได้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ทีเดียว หาจำต้องนำเคียวไปจ้างผู้อื่นแก้ไขและจ่ายค่าจ้างไปแล้วก่อน จึงจะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์โดยพระพิศาลสุขุมวิทย์ ผู้อำนวยการองค์การจัดซื้อสิ่งของเพื่อบรรเท่าทุกข์และบูรณะความเสียหายของประเทศ ซึ่งเป็นองค์การขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์เป็นตัวแทน ได้ทำสัญญาจ้างเหมาทำเคียวเกี่ยวข้าวกับจำเลยๆ นำเคียวไม่ถูกต้องมาส่ง โจทก์ขอให้จำเลยแก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา จำเลยเพิกเฉย จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๓๑,๐๒๒ บาท
จำเลยปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยผิดสัญญาจริว แต่เห็นว่าค่าเสียหาย ค่าแก้ไขเคียวที่บกพร่อง ๑๐๒,๓๕๓ บาท นั้น ตามสัญญาข้อ ๗ มุ่งหมายถึงการที่โจทก์เสียค่าจ้างแก้ไขแล้ว แก่นี่โจทก์ยังไม่ได้ตกลงจ้างผู้ใดแก้ไขเคียวที่บกพร่องนั้นจะให้จำเลยด่วนรับผิดยังไม่ชอบ คงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน ๑๙๔๒๙ บาท
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน ๑๒๕,๓๕๐ บาท
จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยผิดสัญญาและต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ส่วนหนึ่งตามสัญญาข้อที่ ๗ ที่กล่าวว่า ” ฯลฯ ถ้าผู้รับจ้างผิดนัดสัญญา ฯลฯ ผู้จ้างจะเลิกสัญญากับผู้รับจ้างเสียแล้ว รับเอาเหล็กคืนไปจ้างผู้อื่นทำก็ได้ และต้องเสียค่าจ้างเพื่อขึ้นกว่าราคาของผู้รับจ้างเท่าใด ผู้รับจ้างต้องออกเงินที่เสียเพื่อขึ้นนั้นให้แก่ผู้จ้างรับจ้างจนครบ” นั้นเป็นเพียงการกล่าวถึงวิธีการคำนวณค่าเสียหาย และมุ่งไปในทางที่ยังไม่ลงมือทำของ หรือทำยังไม่เสร็จ ฉะนั้นเมื่อโจทก์นำสืบถึงจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์จะต้องได้รับไว้ชัดแจ้งแน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิจะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ หาจำต้องนำเคียวไปจ้างผู้อื่นแก้ไขและจ่ายค่าจ้างไปแล้วเสียก่อน จึงฟ้องเรียกจำเลยได้ ดังนั้นไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้วในข้อนี้ แต่ที่ยังมิได้ได้หักค่าแก้ไขเคียวที่จำเลยแก้ไขแล้ว ๑๐๐ เล่ม เป็นเงิน ๓๒๕ บาท ออกนั้น ยังคลาดเคลื่อนไปบ้าง
จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เพียง ๑๒๕๐๒๕-