แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์และจำเลยเป็นคู่สัญญาเช่าซื้อโดยตรง การที่จำเลยร่วมเป็นผู้ชักนำให้โจทก์เข้าทำสัญญาเช่าซื้อกับจำเลย และโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อผ่านจำเลยร่วมนั้น ไม่มีผลทำให้จำเลยร่วมเป็นตัวแทนของโจทก์แต่ประการใด เมื่อโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ในฐานะผู้ให้เช่าซื้อต้องมีหน้าที่ส่งมอบเอกสารชุดโอนทะเบียนรถยนต์แก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 572 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ส่งมอบคู่มือการจดทะเบียนและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อพร้อมแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียนให้เป็นชื่อโจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าขาดประโยชน์วันละ 2,000 บาท นับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2539 ไปจนกว่าจำเลยจะส่งมอบคู่มือการจดทะเบียนและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ดำเนินการ ขอถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้ดำเนินการและให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอน
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาศาลชั้นต้นอนุญาตให้เรียกบริษัทสิริมนต์ จำกัด เข้าเป็นจำเลยร่วม
จำเลยร่วมไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบคู่มือการจดทะเบียนและดำเนินการโอนชื่อทางทะเบียนให้โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หากทำไม่ได้ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้ดำเนินการโอน ให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมการโอน กับให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์วันละ 1,200 บาท นับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2539 ไปจนกว่ามีการโอนชื่อทางทะเบียนให้แก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ และให้ยกฟ้องจำเลยร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยดังนี้ ประเด็นที่ 1 คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบแล้วหรือไม่ กล่าวคือ จำเลยต้องส่งมอบเอกสารชุดโอนทะเบียนรถยนต์ตามฟ้องให้แก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่าโจทก์และจำเลยเป็นคู่สัญญาเช่าซื้อกันโดยตรงตามสัญญาเช่าซื้อและไม่มีข้อความหรือเอกสารอันใดที่แสดงให้เห็นถึงการที่โจทก์ตั้งจำเลยร่วมเป็นตัวแทนในการทำสัญญาเช่าซื้อแต่อย่างใด การที่จำเลยร่วมเป็นผู้ชักนำให้โจทก์เข้าทำสัญญาเช่าซื้อกับจำเลย และโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อผ่านจำเลยร่วมนั้น ไม่มีผลทำให้จำเลยร่วมเป็นตัวแทนของโจทก์แต่อย่างใด เมื่อโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อแก่จำเลยครบถ้วนแล้วจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ในฐานะผู้ให้เช่าซื้อมีหน้าที่ต้องส่งมอบเอกสารชุดโอนทะเบียนรถยนต์ที่เช่าซื้อให้แก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 572 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยอ้างว่าได้มอบเอกสารชุดโอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่จำเลยร่วมไปโดยจำเลยร่วมไม่มีอำนาจรับไว้แทนโจทก์และความปรากฏว่าจำเลยร่วมไม่ยอมส่งมอบต่อให้โจทก์นั้น เมื่อจำเลยมีหน้าที่ที่จะส่งมอบเอกสารชุดโอนทะเบียนต่อโจทก์ จะอ้างว่าเป็นการพ้นวิสัยที่จะกระทำได้หาได้ไม่
ประเด็นที่ 2 ค่าเสียหายมีเพียงใดและจำเลยร่วมจะต้องร่วมรับผิดในค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยดังฎีกาของจำเลยหรือไม่ นั้น เห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะโจทก์ไม่ได้รับเอกสารชุดโอนทะเบียนรถยนต์จึงเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถใช้รถยนต์ได้ และขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์จำเลยร่วมไม่ใช่คู่สัญญากับโจทก์จึงไม่มีความผูกพันใด ๆ ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาและกำหนดค่าเสียหายให้วันละ 1,200 บาท ชอบแล้ว ส่วนฎีกาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของจำเลยนอกจากนี้ ไม่ได้ยกขึ้นมาว่ากล่าวโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยและไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.