คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7713/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาแบ่งผลประโยชน์ระหว่างโจทก์และจำเลย โดยคิดจากจำนวนนักเรียนที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ไม่น้อยกว่า 700 คน ต่อ 1 ภาคการศึกษา เก็บค่าเล่าเรียนคนละ 700 บาท ต่อ 1 ภาคการศึกษา ส่งแก่โจทก์ โดยจำเลยจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินร้อยละ 15 ของค่าเล่าเรียนที่เก็บได้ โจทก์เป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งจัดสร้างห้องเรียนคอมพิวเตอร์ให้จำเลย 1 ห้อง เมื่อครบ 4 ปีแล้ว โจทก์จะมอบคอมพิวเตอร์ วัสดุอุปกรณ์ ห้องเรียนและหลักสูตรการเรียนการสอนให้จำเลยทั้งหมด ผลของสัญญามิได้กระทบต่อสิทธิหรือประโยชน์ของคนโดยทั่วไป สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทนรูปแบบหนึ่งซึ่งใช้บังคับกันได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 149 และ 369 ไม่ใช่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือเป็นสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาซื้อขายเงินผ่อน จึงเป็นธรรมและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนอันจะตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 627,568.55 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 583,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า สัญญานี้โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมมีลักษณะเป็นการเช่าซื้อ หรือซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เงินผ่อน ซึ่งโจทก์ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีและสามารถทำกำไรให้โจทก์ได้มากกว่า เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีตกเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 583,000 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 166,500 บาท นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2537 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 416,500 บาท นับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2538 จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับโจทก์ได้ทำสัญญาต่างตอบแทนโครงการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งห้องเรียนคอมพิวเตอร์และการพัฒนาบุคลากรของโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ตามเอกสารหมาย จ. 4 จำเลยชำระเงินตามสัญญาให้โจทก์สำหรับภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2537 แล้วครบถ้วน ในภาคการศึกษาที่ 2 จำเลยชำระเงินให้โจทก์เพียง 250,000 บาท ขาดอยู่อีก 166,500 บาท ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2538 จำเลยมิได้ชำระเงินแก่โจทก์ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาแล้ว วินิจฉัยว่า สัญญาต่างตอบแทนตามเอกสารหมาย จ. 4 มีลักษณะเป็นสัญญาที่แบ่งผลประโยชน์ระหว่างโจทก์และจำเลย โดยคิดจากจำนวนนักเรียนที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ไม่น้อยกว่า 700 คน ต่อ 1 ภาคการศึกษา โดยเก็บค่าเล่าเรียนคนละ 700 บาท ต่อ 1 ภาคการศึกษา ส่งแก่โจทก์ โดยจำเลยจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินร้อยละ 15 ของค่าเล่าเรียนที่เก็บได้ โจทก์เป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งจัดสร้างห้องเรียนคอมพิวเตอร์ให้จำเลย 1 ห้อง เมื่อครบ 4 ปีแล้ว โจทก์จะมอบคอมพิวเตอร์ วัสดุอุปกรณ์ ห้องเรียน และหลักสูตรการเรียนการสอนให้จำเลยทั้งหมด ผลของสัญญามิได้กระทบต่อสิทธิหรือประโยชน์ของคนโดยทั่วไป สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทนรูปแบบหนึ่งซึ่งใช้บังคับกันได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 149 และ 369 ไม่ใช่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือเป็นสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาซื้อขายเงินผ่อน จึงเป็นธรรมและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนอันจะตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150
พิพากษายืน.

Share