คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พลเรือนซึ่งสังกัดในราชการทหาร กระทำการลักทรัพย์ของทางราชการทหารในขณะที่เป็นยามรักษาการ และมีศาตราวุธของหลวงประจำตัวนั้น จะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญาทหารมาตรา 50 ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ทหาร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพลเรือนสังกัดในราชการทหารมีตำแหน่งเป็นคนงานในกรมคลังแสงทหารบก เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2492 เวลากลางคืน ขณะเป็นยามรักษาการกรมคลังแสงทหารบก มีดาบปลายปืนเป็นศาสาตราวุธของหลวงประจำตัว จำเลยบังอาจลักปืนยาว 3 กระบอก ราคา 4,500 บาทของกองทัพบกไป ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293, 294 และประมวลกฎหมายลักษณะอาญาทหาร มาตรา 50

จำเลยรับสารภาพ

ศาลทหารกรุงเทพฯ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294 ตอนท้าย ข้อที่ขอให้เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา 50 เพิ่มไม่ได้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลทหารกลางพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำว่าทหารกับผู้ซึ่งสังกัดอยู่ในราชการทหารนั้นผิดกัน ผู้ซึ่งสังกัดอยู่ในราชการทหาร อาจเป็นพลเรือนก็ได้หรือเป็นทหารก็ได้ จำเลยในคดีนี้เป็นพลเรือน แต่สังกัดอยู่ในราชการทหาร ในฟ้องของโจทก์ก็ยอมรับอยู่แล้วว่าจำเลยเป็นพลเรือนบทกฎหมายที่โจทก์กล่าวอ้างมิได้บัญญัติว่า ผู้ซึ่งสังกัดอยู่ในราชการทหาร เป็นทหาร ศาลทหารกลางพิพากษาชอบแล้ว

จึงพิพากษายืน

Share