แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ข้าหลวงประจำจังหวัดผู้ลงชื่อในประกาศควบคุมฯ จะย้ายไปรับราชการที่อื่น ประกาศนั้นก็ไม่ยกเลิก ยังใช้บังคับได้อยู่
ย่อยาว
โจทก์หาว่า วันที่ 22 สิงหาคม 2496 เวลากลางวัน จำเลยขายเนื้อสุกรชนิดสามชั้นและเนื้อปนมันให้ผู้มีชื่อไปหนัก 1 กิโลกรัมราคา 13 บาท เกินกว่าราคาที่คณะกรรมการส่วนจังหวัดประกาศป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดกาญจนบุรี ฉบับที่ 4/2496 ลงวันที่ 21 มกราคม 2496 ไป 50 สตางค์ ขอให้ลงโทษและจ่ายเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุม ร้อยละยี่สิบของค่าปรับด้วย
จำเลยให้การว่า ได้จำหน่ายเนื้อสุกรตามชนิดและราคาที่ทางการควบคุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาฟังว่า จำเลยขายเนื้อสุกรสามชั้นและเนื้อปนมันให้นางประดับ หนัก 1 กิโลกรัม ราคา 13 บาท ซึ่งตามประกาศของคณะกรรมการกำหนดให้ขายกิโลกรัมละ 12.50 บาทจำเลยขายเกินราคากำหนด 50 สตางค์
ข้อที่จำเลยแถลงการณ์ว่า ขุนอักษรสารสิทธิ ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้ลงนามในประกาศควบคุม คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อขุนอักษรย้ายไปแล้ว ประกาศนั้นจึงใช้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ แต่ก็มีความเห็นว่าประกาศนั้นยังมีผลใช้บังคับได้
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 มาตรา 6, 8, 16, 17, 18 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 8, 9 ปรับจำเลย 50 บาท ให้จ่ายเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมจำเลยร้อยละ 20 ของค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาเป็นข้อกฎหมายว่า ขุนอักษรสารสิทธิผู้เซ็นประกาศควบคุมได้ย้ายไปจากจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ประกาศนั้นจึงไม่มีผลบังคับต่อไป
ศาลฎีกาประชุมปรึกษา เห็นว่า แม้ขุนอักษรสารสิทธิผู้เซ็นประกาศจะได้ย้ายไปจากจังหวัดกาญจนบุรีเสียแล้ว ประกาศฉบับนี้ไม่เสียหรือยกเลิก ยังคงใช้ได้อยู่ ไม่มีบทกฎหมายหรือข้อบังคับใดว่าต้องยกเลิกดังจำเลยฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น พร้อมกันพิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย