คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7655/2552

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะวินิจฉัยว่าการนับโทษต่อของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยชอบหรือไม่ จะต้องรับฟังข้อเท็จจริงให้เป็นยุติตามที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเหตุคดีนี้เกิดในเวลาเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2328/2548 ของศาลชั้นต้น แต่จำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงนี้ขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น ตามอุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ และเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่าต้องนับโทษในคดีนี้ควบกับคดีดังกล่าว จึงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่รับวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ริบเฮโรอีนและนาฬิกาไม้ของกลาง เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายและนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 454/2548 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษและนับโทษต่อ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (3), 66 วรรคสาม, 102 ให้ประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (1) ที่ถูก มาตรา 52 (2) คงจำคุกตลอดชีวิต นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2328/2548 ของศาลชั้นต้นเมื่อลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตแล้ว จึงเพิ่มโทษอีกไม่ได้ (ที่ถูก ยกคำขอให้เพิ่มโทษ) ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าในชั้นอุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่ศาลชั้นต้นนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2328/2548 ของศาลชั้นต้นเป็นการมิชอบเนื่องจากเหตุคดีนี้เกิดในเวลาเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2328/2548 ของศาลชั้นต้นจึงต้องนับโทษในคดีนี้ควบกับคดีดังกล่าว แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นเป็นการมิชอบ เห็นว่า การที่จะวินิจฉัยว่าการนับโทษต่อของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยชอบหรือไม่จะต้องรับฟังข้อเท็จจริงให้เป็นยุติตามที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเหตุคดีนี้เกิดในเวลาเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2328/2548 ของศาลชั้นต้น แต่จำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงนี้ขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น ตามอุทธรณ์ของจำเลยเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่และเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น แต่จำเลยบิดเบือนให้เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์ในข้อนี้ของจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่รับวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวจึงชอบแล้ว ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบากว่าศาลล่างทั้งสองนั้น เห็นว่า การที่จำเลยมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 4 แท่ง น้ำหนัก 688.30 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 540.522 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย นับว่าเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษจำนวนมาก ตามสภาพและลักษณะแห่งความผิดนับเป็นมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติอีกทั้งสามารถทำลายทรัพยากรมนุษย์ บั่นทอนความสงบสุขของสังคมและเศรษฐกิจของชาติสุดคณานับ ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษประหารชีวิตจำเลย ก่อนลดโทษให้นั้น เหมาะสมตามความผิดแล้ว และเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจในเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) ให้แก่จำเลยกึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำเลยจำคุกตลอดชีวิตก็เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share