แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระเบียบการจ่ายเงินรางวัลฝิ่น พ.ศ.2490 ข้อ 4 ที่ว่า’เงินรางวัลเจ้าพนักงานคือ เงินจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการสืบสวนจับกุมจนเป็นผลสำเร็จด้วยตนเองฯลฯ’ นั้น หมายถึงการจ่ายให้เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการทั้งสืบสวนและจับกุม ฉะนั้นเจ้าพนักงานซึ่งทำการจับกุมแต่อย่างเดียวมิได้ร่วมสืบสวนด้วยจึงไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล
การไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจ่ายน้อยกว่าระเบียบข้อ 19นั้น จะต้องมีเหตุผลและต้องเป็นเหตุผลที่ชอบที่ควรตามนับแห่งฎีกาที่ 1153/2508
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลการจับฝิ่นผิดกฎหมายให้โจทก์เป็นเงิน 167,125 บาท 95 สตางค์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมีอำนาจพิจารณาไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจะจ่ายให้ตามที่เห็นสมควรก็ได้ โจทก์มิได้จับแต่ผู้เดียว มีผู้อื่นร่วมด้วย และผู้นั้นขอให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลให้ผู้นั้นโดยตรง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 20,677.33 บาท แก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระเบียบการจ่ายเงินรางวัลฝิ่น พ.ศ. 2490 ข้อ 4 ที่ว่า “เงินรางวัลเจ้าพนักงาน คือ เงินจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการสืบสวนจับกุมจนเป็นผลสำเร็จด้วยตนเอง หรือนำความมาแจ้งจนได้ทำการจับกุมจนเป็นผลสำเร็จ” นั้น เป็นการจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการทั้งสืบสวนและจับกุมด้วยกรณีหนึ่ง และจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้นำความมาแจ้งจนได้ทำการจับกุมจนเป็นผลสำเร็จ อีกกรณีหนึ่ง ฉะนั้น ในกรณีแรกเจ้าพนักงานซึ่งทำการจับกุมแต่อย่างเดียว มิได้ร่วมสืบสวนด้วย จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล
คดีนี้ ตามพฤติการณ์ส่อแสดงว่าโจทก์แต่ผู้เดียวสืบทราบจากสายลับมาก่อนแล้ว จึงนำเจ้าพนักงานไปทำการตรวจค้นจับกุม โจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินรางวัลผู้เดียว จำเลยจะอ้างระเบียบข้อ 19 มาอ้างมิได้ เพราะการไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจ่ายน้อยกว่าระเบียบนั้นจะต้องมีเหตุผลและต้องเป็นเหตุผลที่ชอบที่ควร ตามนัยแห่งฎีกาที่ 1153/2508
จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยจ่ายเงิน 165,657.94 บาทแก่โจทก์