คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใช้มีดแทง ผู้เสียหายหลบมีดจึงไม่ถูกผู้เสียหาย เป็นความผิดตาม มาตรา 254,60

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2496 เวลาประมาณ 18.00 นาฬิกา จำเลยบังอาจใช้มีดแทงทำร้ายร่างกายนายใช้เล็กวงษ์เดิม แต่นายใช้หลบหนีเสียทัน อันเป็นเหตุพ้นวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้มาขัดขวางเสีย จำเลยจึงทำร้ายร่างกายนายใช้ไม่ได้ เหตุเกิดที่ตำบลปากพลี อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายกเจ้าพนักงานจับได้พร้อมด้วยมีดของกลาง ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก ศาลให้รอการลงอาญาไว้ ขอให้เอาโทษที่รอไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้ด้วย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254, 60 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2494 มาตรา 3, 4 และให้ริบมีดของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า วันเกิดเหตุเวลา 18.00 น.นายใช้ขับรถยนต์กลับจากเทหินลูกรัง มีนายละม่อม นายต้อย นายช่วยกับพวกโดยสารมาด้วย พอมาถึงห่างสามแยกปากพลีประมาณ 3 เส้นจำเลยกับพวกยกมือให้รถหยุด นายใช้ไม่หยุด พอถึงสามแยกจอดรถแล้วจำเลยก็ไปถึง จำเลยถามว่ารถของใครยกมือให้หยุดทำไมไม่หยุดไม่มีผู้ตอบ จำเลยก็ชักมีดไล่แทงนายใช้ นายใช้วิ่งเข้าบ้านนายเหลือจำเลยท้าทายไม่มีใครสู้ก็กลับนายไฝพยานโจทก์คนหนึ่งเบิกความว่าจำเลยแทงเสือไปข้างหน้า แทงไปจนสุดแขนมีดก็ยังไม่ถึงตัวนายใช้แล้วนายใช้ก็โดดหนี โดยพอจำเลยขยับจะแทง นายใช้ก็ถอยห่างออกไปเมื่อแทงไปไม่ถึงตัวดังนี้ เห็นว่า แม้ความจริงจำเลยจะได้แทงนายใช้ก็ดีการกระทำของจำเลยยังไกลกว่าเหตุ คือมีดไม่อาจถูกนายใช้ได้ การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นพยายาม ยังไม่มีความผิดจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มีประจักษ์พยาน 4 คน ยืนยันว่าจำเลยได้แทงนายใช้ผู้เสียหายในระยะกระชั้นชิด ผู้เสียหายเอี้ยวตัวหลบเสียทัน จึงไม่ถูกคมมีดของจำเลย จำเลยยังได้ไล่ทำร้ายผู้เสียหายอีกหากแต่นายเหลือ นายอินได้ห้ามปรามจำเลยไว้ เหตุจึงได้ระงับลง ได้พิเคราะห์คำนายไฝพยานแล้ว นายไฝให้การว่าจำเลยแทงนายใช้ นายใช้หลบจึงแทงไม่ถูก ถ้านายใช้ไม่ถอยห่างออกไป เวลาแทงมีดจะถึงตัวนายใช้พอดี เมื่อประมวลถ้อยคำพยานโจทก์แล้วเห็นได้ชัดว่าผู้เสียหายเอี้ยวตัวหลบเสียทัน จึงไม่ถูกมีดของจำเลย พยานจำเลยไม่หักล้างพยานโจทก์ ชั้นสอบสวนจำเลยก็ให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254, 60 ฐานพยายามทำร้ายร่างกายให้จำคุกจำเลย 2 เดือน และให้บวกโทษจำคุก 2 เดือนที่ศาลรอการลงโทษไว้ด้วยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 41, 42 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2494 มาตรา 4 รวมโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนโจทก์มิได้นำสืบว่ามีดของกลางเป็นมีดที่จำเลยใช้ในการกระทำผิด ทั้งจำเลยก็นำสืบว่ามีดของกลางเจ้าพนักงานเอามาจากไหนไม่ทราบ จึงไม่ริบ

จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา

ศาลฎีกาได้ประชุมพิจารณาแล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นยกเอาเหตุที่นายใช้พยานโจทก์คนหนึ่งให้การตอบคำถามทนายจำเลยตอนหนึ่งว่าจำเลยแทงเสือกไปข้างหน้า แทงไปจนสุดแขน มีดก็ยังไม่ถึงตัวนายใช้เป็นเหตุวินิจฉัยว่ายังไม่เป็นความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย ความจริงนายใช้ยังให้การต่อไปอีกว่า ถ้านายใช้ไม่ถอยห่างออกไปเวลาแทงมีดจะถึงตัวนายใช้พอดีตามที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นกล่าวนั้นยิ่งกว่านั้นเมื่อตอบคำถามโจทก์ นายไฝก็ได้ให้การว่าจำเลยชักมีดวิ่งไปที่นายใช้และแทงนายใช้ แต่นายใช้หลบ จึงแทงไม่ถูก และนายใช้ผู้เสียหายให้การว่า จำเลยใช้มีดแทงแต่หลบเสียทัน มีดจึงเฉี่ยวไปนายละม่อมพยานว่า จำเลยชักมีดวิ่งไปที่นายใช้ และแทงนายใช้ นายใช้หลบเสียและยังได้ความจากพยานโจทก์ต่อไปอีกว่า เมื่อนายใช้หนีจำเลยยังได้วิ่งไล่ตามจะทำร้ายอีก ชั้นสอบสวนจำเลยก็ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้มีดไล่ทำร้ายนายใช้กับพวกจริง เพราะความเมาสุราคดีจึงไม่เป็นปัญหาว่าจำเลยจะไม่มีความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว พิพากษายืน

Share