แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กำหนดโทสที่อาดมีถึงจำคุก ย่อมหนักกว่ากำหนดโทสที่มีแต่ปรับสถานเดียว.
อัตราโทสตาม ม. 48 พ.ร.บ.การเก็บรักสาน้ำมันเชื้อเพลิง 2474 คือปรับตั้งแต่ 200 บาทถึง 1000 บาท ส่วนอัตราโทสตาม ม. 22 พ.ร.บ.การปันส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญญัติโทสไว้สามสถานถึงจำคุก กำหนดโทสตามกดหมายอันหลังย่อมหนักกว่าอันแรก.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า จำเลยเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดธัมดาไว้สำหรับจำหน่ายขาย ๑๖ ลิตรไนสถานที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายขายน้ำมันรายนี้ที่ไห้มีการปันส่วนแก่ผู้มีชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคนะกัมการฯ ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การรับสารภาพ
สาลชั้นต้นพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักสาน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๗๔ มาตรา ๔๘,๑๘ และพระราชบัญญัติปันส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๘๓ มาตรา ๑๖,๒๒ คงไห้ปรับจำเลย ๕ บาท
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำเลยตามพระราชบัญญัติปันส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๘๓ มาตรา ๒๒ ซึ่งเปนบทที่หนัก ความอื่นนอกนั้นคงยืน
โจทดีกา ขอไห้ลงโทสจำเลยตามมาตรา ๔๘ พระราชบัญญัติการเก็บรักสาน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๗๔ ซึ่งมีอัตราโทสปรับตั้งแต่ ๒๐๐ บาทถึง ๑๐๐๐ บาทซึ่งเปนบทที่มีโทสหนักสาลดีกาเห็นว่า โทสตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัตินั้นส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ๒๔๘๓ อาดมีโทสถึงจำคุก แต่ตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติการเก็บรักสาน้ำมันเชื้อเพลิงมีโทสปรับสถานเดียว ฉะนั้นโทสตามมาตรา ๒๒ จึงหนักกว่าโทสตามมาตรา ๔๘ พิพากสายืนตามสาลอุธรน์