คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างว่าความเปนสัญญาจ้างทำของตามมาตรา 587
เมื่อผู้จ้างว่าความบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ผู้จ้างว่าความจะต้องเสียค่าสินไหมทดแทนอันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น หาต้องรับผิดไช้เงินตามจำนวนค่าจ้างที่กำหนดไว้ไนสัญญาไม่
(อ้างดีกาที่ 382/2465)

ย่อยาว

โจทฟ้องเรียกเงินค่าจ้างว่าความ ๒๐๐๐๐ บาท ตามสัญญาซึ่งคุนหยิงทองคำ ผู้ปกครองนายจิรายุวัตได้ตกลงทำไว้กับโจท โจทดำเนินคดีไปหลายเรื่องยังไม่ทันเส็ด คุนหยิงทองคำวายชนม์ จำเลยได้รับแต่งตั้งเปนผู้แทนโดยชอบธัมนายจิรายุวัตมีหน้าที่ต้องปติบัติตามสัญญา ที่คุนหยิงทองคำทำไว้กับโจท แต่จำเลยปติเสธไม่ยอมไห้โจทดำเนินคดีต่อไป และไม่จ่ายค่าจ้างไห้จึงขอไห้สาลบังคับ
จำเลยไห้การปติเสธความรับผิด
สาลชั้นต้นวินิฉัยว่า สัญญานั้นสมบูรน์โดยจำเลยเปนฝ่ายผิดสัญญา แต่ข้อที่โจทควนจะได้ค่าจ้างเท่าไดนั้น เห็นว่าโจทเรียกค่าจ้างแพงเกินไป จึงพิพากสาไห้จำเลยไช้เงิน ๑๐๐๐ บาท
ทั้งสองฝ่ายอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าสัญญาจ้างว่าความนี้ จัดหยู่ไนจำพวกสัญญาจ้างทำของตาม ป.พ.พ.มาตรา ๕๘๗ เพราะเปนการตกลงรับจะทำการงานจนสำเหร็ดโดยลำพังตามความคิดของผู้รับจ้าง ไม่ไช่เปนงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้างตามมาตรา ๕๗๕ และการจ้างทำของนี้ตามมาตรา ๖๐๕ เปนเรื่องที่ฝ่ายผิดสัญญาจะต้องเสียค่าสินไหมทดแทน มิไช่ว่าจะต้องรับผิดไช้เงินตามจำนวนค่าจ้างที่กำหนดไว้ไนสัญญา ด้วยเหตุนี้สาลจึงย่อมต้องคำนวนความเสียหายของโจทอันเกิดแต่การที่จำเลยเลิกสัญญานั้นคำพิพากสาดีกา ที่ ๓๘๒/๒๔๖๕ ความเสียหายของโจทนี้ โจทมิได้สืบแสดงไห้เห็นว่าได้เสียหายเปนจำนวนเท่าได้ แต่เมื่อได้พิจารนาถึงการงานที่โจทได้กะทำมาแล้วประกอบกับคำพยานเห็นพ้องด้วยสาลล่างที่กำหนดจำนวนค่าจ้างไห้โจท จึงพิพากสายืน

Share