แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาและศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ฟังแล้ว แต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ฟัง จึงต้องถือว่าคดีของจำเลยที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยกคำร้องขอถอนอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาคำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196 ประกอบมาตรา 215 และ 225
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15, 26, 66, 67, 76, 102 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 26, 66 วรรคหนึ่ง วรรคสอง, 76 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ต่อมาศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ฟัง ระหว่างอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ฟัง จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา และศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ฟังแล้ว จึงไม่อนุญาต ยกคำร้อง หลังจากนั้นศาลชั้นต้นส่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปให้ศาลอาญาอ่านให้จำเลยที่ 2 ฟัง แต่จำเลยที่ 2 แถลงว่าจำเลยที่ 2 ได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ และขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพื่อรอฟังคำสั่งของศาลฎีกา ศาลอาญาอนุญาตและให้ส่งถ้อยคำสำนวนคืนศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาและศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ฟังแล้ว แต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ฟัง จึงต้องถือว่าคดีของจำเลยที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยกคำร้องขอถอนอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาคำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ประกอบมาตรา 215 และ 225 ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 2