แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ตามบันทึกการจับกุมระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ “WY”โดยมีนายดาบตำรวจ ว. ผู้จับกุมเบิกความสนับสนุนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางแต่ละเม็ดมีอักษร “WY” และตามคำให้การชั้นสอบสวนของนายดาบตำรวจ ว. ก็ระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางมีตัวอักษร”WY” ทั้งไม่ปรากฏเหตุผลว่าเหตุใดบัญชีของกลางซึ่งทำขึ้นโดยพนักงานสอบสวนจึงได้มีข้อความเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนของกลางคดีอาญาว่าเป็นยาเสพติดให้โทษสีม่วงมีอักษรภาษาอังกฤษ”เอ็มวาย”ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากอักษร “WY” เป็นอย่างมาก และข้อเท็จจริงที่ได้จากคำเบิกความของ ล. พยานโจทก์ซึ่งเบิกความประกอบรายงานผลการตรวจพิเคราะห์ว่าของกลางที่ได้รับมาเพื่อตรวจพิสูจน์นั้น ด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีอักษรคล้ายตัวอักษร “เอ็ม” อีกด้านหนึ่งมีตัวเลข 99 และ ล. ยังตอบคำถามติงของผู้แทนโจทก์อีกว่าอักษร “เอ็ม” บนยาเม็ดของกลางมีขนาดเกือบเต็มเม็ด ดังนี้เกี่ยวกับตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏบนเมทแอมเฟตามีนแต่ละเม็ดเป็นสัญญลักษณ์ที่ผู้จัดทำทำขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกต อันเป็นลักษณะเฉพาะของเมทแอมเฟตามีนแต่ละชนิด จึงถือว่าเป็นสาระสำคัญ หาใช่เป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดไม่ เมื่อสิ่งของดังกล่าวที่พนักงานสอบสวนส่งไปเพื่อตรวจพิสูจน์ให้ทราบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยแล้ว จึงไม่อาจนำผลการตรวจพิสูจน์มาใช้ยันจำเลยว่า วัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้ค้นพบเมทแอมเฟตามีนที่ตัวจำเลยและภายในบ้านจำเลยและโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ฟังได้ว่าวัตถุของกลางที่ยึดได้จากจำเลยเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 91 คืนธนบัตรจำนวน 220 บาท แก่เจ้าของ และริบของกลางอื่นทั้งหมด
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 12 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำคุก 5 ปี รวมจำคุก 17 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 11 ปี 4 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง คืนธนบัตรจำนวน 220 บาท ที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของ และคืนธนบัตรจำนวน3,000 บาท แก่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องโดยให้เหตุผลว่า เมทแอมเฟตามีนของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยนั้นไม่ใช่เมทแอมเฟตามีนจำนวนเดียวกันกับที่พนักงานสอบสวนส่งไปให้นางสาวเล็กเผ่าพืชพันธุ์ ตรวจพิสูจน์ และว่าข้อแตกต่างเกี่ยวกับลักษณะของตัวอักษรที่ปรากฏบนเม็ดเมทแอมเฟตามีนนั้นเป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดเท่านั้น คำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ยึดมาได้จากจำเลยซึ่งเป็นคดีอาญา จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาสืบแสดงต่อศาลให้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้องกล่าวหา ดังนั้น ในคดีนี้ตามคำฟ้องและการเสนอพยานหลักฐานโจทก์จะต้องนำสืบให้ฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน และวัตถุที่โจทก์อ้างว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนของกลางนั้นจะต้องเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ลำดับที่ 20) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ. 2539) เรื่อง ระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522จึงมีข้อที่จะต้องพิจารณาให้ได้ความว่า เมทแอมเฟตามีนที่นางสาวเล็กเผ่าพืชพันธุ์ พยานโจทก์ตรวจพิสูจน์นั้นเป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดได้จากจำเลยหรือไม่ พยานหลักฐานของโจทก์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ยังสับสนและมีข้อพิรุธ ทำให้เป็นที่น่าสงสัยไม่น่าเชื่อว่าเป็นจำนวนเดียวกัน กล่าวคือข้อเท็จจริงได้ความตามบันทึกการจับกุมเอกสารหมาย จ.3 ว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดจำนวน147 เม็ดนั้น ด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ “WY”โดยมีนายดาบตำรวจวันชัยเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมเบิกความสนับสนุนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางแต่ละเม็ดมีอักษร “WY” และตามคำให้การชั้นสอบสวนของนายดาบตำรวจวันชัยตามเอกสารหมาย จ.6 ก็ระบุว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางมีตัวอักษร “WY” ทั้งไม่ปรากฏเหตุผลว่าเหตุใดบัญชีของกลางเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งทำขึ้นโดยพนักงานสอบสวนจึงได้มีข้อความเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนของกลางคดีอาญาที่ได้รับมอบมาจากเจ้าพนักงานผู้จับกุมว่าเป็นยาเสพติดให้โทษสีม่วง มีอักษรภาษาอังกฤษ “เอ็มวาย” ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากอักษร “WY” เป็นอย่างมากแม้ว่าจะนำอักษร “WY” มาอ่านแบบกลับหัวก็ไม่สามารถอ่านเป็นอักษร”เอ็มวาย” ไปได้ และข้อเท็จจริงที่ได้จากคำเบิกความของนางสาวเล็กพยานโจทก์ซึ่งเบิกความประกอบรายงานผลการตรวจวิเคราะห์เอกสารหมาย ป.จ.1 ว่าของกลางจำนวน 147 เม็ด ที่ได้รับมาเพื่อตรวจพิสูจน์นั้นด้านหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนมีอักษรคล้ายตัวอักษร “เอ็ม” อีกด้านหนึ่งมีตัวเลข 99 และนางสาวเล็กยังตอบคำถามติงของผู้แทนโจทก์อีกว่าอักษร “เอ็ม” บนยาเม็ดของกลางมีขนาดเกือบเต็มเม็ด และว่าถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจอ่านเป็นตัว “ฬ” ได้ เกี่ยวกับตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏบนเมทแอมเฟตามีนแต่ละเม็ดเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้จัดทำทำขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกต อันเป็นลักษณะเฉพาะของเมทแอมเฟตามีนแต่ละชนิดจึงถือว่าเป็นสาระสำคัญ หาใช่เป็นเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำผิดดังที่โจทก์ฎีกาไม่ ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาจึงฟังได้ชัดเจนว่า เมทแอมเฟตามีนที่นางสาวเล็กทำการตรวจพิสูจน์นั้นไม่ใช่เป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดได้จากจำเลยแม้นางสาวเล็กจะเบิกความว่าพยานได้รับของกลางในคดีนี้จากสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่ามะกาเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2540 ซึ่งส่งมาทางไปรษณีย์โดยใส่มาในซอง 2 ชั้น มีแบบฟอร์มของทางราชการปะหน้า ระบุชื่อผู้ต้องหาว่านางสาวแววตา ยอดครู มีลายมือชื่อผู้ต้องหากำกับไว้ด้วยก็ตาม ก็หาอาจนำมารับฟังเป็นผลร้ายแก่จำเลยดังที่โจทก์ฎีกาได้ไม่ เพราะสิ่งของที่พนักงานสอบสวนส่งไปให้ตรวจพิสูจน์มีลักษณะชัดเจนดังที่นางสาวเล็กเบิกความดังนั้น เมื่อสิ่งของดังกล่าวที่พนักงานสอบสวนส่งไปเพื่อตรวจพิสูจน์ให้ทราบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็นจำนวนเดียวกันกับวัตถุของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยแล้วจึงไม่อาจนำผลการตรวจพิสูจน์ตามเอกสารหมาย ป.จ.1 มาใช้ยันจำเลยว่าวัตถุที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมยึดมาได้จากจำเลยเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามกฎหมายและประกาศของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ฉะนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้ค้นพบเมทแอมเฟตามีนที่ตัวจำเลยและภายในบ้านจำเลยและโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ฟังได้ว่าวัตถุของกลางที่ยึดได้จากจำเลยเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลยและฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป เพราะแม้จะวินิจฉัยให้ก็ไม่มีผลทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน