คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้นเมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายหรือ อาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องทุกๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องและประทับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานปลอมหนังสือ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องแล้วเห็นว่าฟ้องโจทก์ขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานปลอมหนังสือ พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อความในฟ้องเพียงพอให้เข้าใจได้ดีแล้วพิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกันลักโฉนดของโจทก์ และสมคบกันปลอมใบมอบฉันทะปลอม โดยเซ็นชื่อนายไปล่นายอยู่ เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตรหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงทำนิติกรรมขายที่ดินโฉนดของโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 2 ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตเพื่อฉ้อโกงเอาที่นารายนี้ของโจทก์เป็นกรรมสิทธิ์ ดังนี้ ก็เข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหาย หรืออาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวบรรยายทุก ๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมายจำเลยย่อมเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์

พิพากษายืน

Share