แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นนิติบุคคลอาคารชุด มีบริษัท ย. ซึ่งมี ร. เป็นผู้ดำเนินการแทนบริษัท ย. ในฐานะผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดดังนั้น ร. ซึ่งเป็นผู้จัดการย่อมมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับของโจทก์ข้อ 8 (2) การฟ้องคดีเพื่อเรียกเอาค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ค้างชำระจากจำเลยถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในวัตถุประสงค์ข้อ 8 (2) โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลอาคารชุด มีบริษัทยู เอ็ม ไอ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีนายรังษี จูดี เป็นผู้ดำเนินการแทนบริษัทในฐานะผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ 65/155 และ 65/158 ชั้น 19 เนื้อที่รวม 349.48 ตารางเมตร มีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางแก่โจทก์ในราคาตารางเมตรละ 40 บาท ต่อเดือน ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไปหากผิดนัดจะต้องถูกปรับในอัตราร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่ค้างชำระตามข้อบังคับ โดยจำเลยต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางสำหรับห้องชุดเลขที่ 65/155 เดือนละ 7,220.40 บาท และห้องชุดเลขที่ 65/158 เดือนละ 6,758.80 บาทรวมเงินที่ต้องชำระเดือนละ 13,979.20 บาท ต่อมาจำเลยค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางตั้งแต่เดือนกันยายน 2538 ถึงเดือนกันยายน 2542 รวม 49 เดือน เป็นเงิน 684,980.80 บาท พร้อมค่าปรับอัตราร้อยละ 10 เป็นเงิน 68,498.08 บาท รวมเป็นเงิน 753,478.88 บาท โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 753,478.88 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะการจะดำเนินคดีแก่ผู้ใดในนามโจทก์ตามข้อบังคับของโจทก์กำหนดว่าต้องได้รับความเห็นชอบโดยมติที่ประชุมเจ้าของร่วม แต่คดีนี้ไม่มีมติที่ประชุมเจ้าของร่วมให้ดำเนินคดีแก่จำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 753,478.88 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 4 พฤศจิกายน 2542) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 6,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 6,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องไว้ ชัดเจนว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลอาคารชุด มีบริษัทยู เอ็ม ไอ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีนายรังษี จูดี เป็นผู้ดำเนินการแทนบริษัทในฐานะผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด ซึ่งตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522 มาตรา 35 บัญญัติว่า “ให้นิติบุคคลอาคารชุดมีผู้จัดการคนหนึ่งซึ่งจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้
ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้จัดการ ให้นิติบุคคลนั้นแต่งตั้งบุคคลธรรมดาคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการแทนนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการ” ดังนั้น นายรังษีซึ่งเป็นผู้จัดการย่อมมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับของโจทก์ข้อ 8 (2) ซึ่งระบุให้ผู้จัดการมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับของโจทก์ข้อ 8 (2) ซึ่งระบุให้ผู้จัดการมีอำนาจกระทำการต่างๆ ทั้งปวงเพื่อประโยชน์ในการจัดการและดูแลทรัพย์ส่วนกลาง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่เจ้าของร่วม การฟ้องคดีนี้เพื่อเรียกเอาค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ค้างชำระจากจำเลยถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในวัตถุประสงค์ข้อ 8 (2) ที่จำเลยอ้างว่าการฟ้องคดีนี้เป็นอำนาจของที่ประชุมเจ้าของร่วมตามข้อบังคับดังกล่าวข้อ 5 นั้น ข้อบังคับข้อดังกล่าวเป็นเรื่องวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลอาคารชุดเท่านั้น หาใช่ข้อบังคับที่ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการไม่ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 10,000 บาท แทนโจทก์.