คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7475/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 นั้นแม้จะเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งจำเลยก็ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล หาใช่ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันเฉพาะกรณีอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาแต่เพียงอย่างเดียวไม่คดีนี้แม้จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอเลื่อนคดี และงดสืบพยานจำเลยไม่ใช่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ตาม จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์จำนวน1,168,602,72 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ของต้นเงิน1,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จหากจำเลยไม่ชำระให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดหากขายได้ไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40, 86 วรรคสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,168,602.72 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ของต้นเงิน 1,000,000 บาทนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยไม่ชำระให้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 74740, 74742, 11410 พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาชำระก่อนมิฉะนั้นไม่รับอุทธรณ์คำสั่ง
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งว่า จำเลยไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ เมื่อจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 จึงเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นสมควรวินิจฉัยฎีกาของจำเลยข้อแรกเสียก่อนว่า การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1เป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอเลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลย ไม่ใช่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงหาจำต้องนำเงินหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลไม่ ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่าจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 จึงไม่ชอบนั้นเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 บัญญัติว่าถ้าศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้นไปยังศาลอุทธรณ์โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นและนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง การอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ตามบทกฎหมายดังกล่าวนั้น แม้จะเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งก็ตาม จำเลยก็ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล หาใช่ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันเฉพาะกรณีอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาแต่เพียงอย่างเดียวไม่ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เช่นนี้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share