คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+ที่นำสืบว่าจำเลยนำ+เข้ามาในพระราชอาณาจักรจริงหรือไม่+หน้าที่โจทก์นำสืบมาก่อน+ประเด็นที่ว่าของนั้นได้เสียภาษีหรือได้นำเข้ามา+ชอบหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน
ศาลชั้นต้นกะประเด็นหน้าที่นำสืบ+คู่ความไม่คัดค้านในชั้น+และได้นำสืบกันมาแล้วศาลรับฟังได้โดยไม่ต้องให้+สืบกันใหม่
+ของเข้ามาในพระราชอาณาจักร์โดยไม่เสียภาษี+จำหน่ายไปหมดแล้ว ศาล+คำสั่งริบได้ และให้จัการตามกฎหมายอาญา ม.18,29

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำเครื่องขีดไฟเบนซิน ๑๒๓๖ อันเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้เสียภาษีและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษและริบของกลางตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ ม.๒๗,๓๔,๑๐๐
จำเลยต่อสู้ว่าได้ซื้อจากจีนที่จังหวัดอุตตรดิตถ์
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำสืบก่อนแล้วฟังว่าจำเลยทำผิดดังโจทก์หา จึงให้ลงโทษตามมาตรา ๒๗ ของกลางไม่ริบโดยปรากฎว่าจำเลยจำหน่ายไปหมดแล้ว
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยศาลเดิม แต่ในเรื่องริบทรัพย์นั้นแก้ว่าให้ริบเครื่องขีดไฟนั้นเสียตามมาตรา ๓๔ ถ้าไม่นำมาส่งศาลก็ให้จำเลยใช้ราคา ๓๐๐ บาท ถ้าจำเลยไม่ใช้ก็ให้จัดการตามมาตรา ๑๘,๒๙
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตาม พ.ร.บ.ศุลกากรมาตรา ๑๐๐ ซึ่งให้จำเลยนำสืบก่อนนั้นหมายความว่าจำเลยรับหรือได้ความว่าจำเลยได้นำของนั้นเข้ามาในพระราชอาณาเขตต์ เมื่อได้ความในประเด็นข้อนี้แล้ว ประเด็นที่ว่าได้ชำระค่าภาษีหรือได้นำเข้ามาโดยชอบหรือไม่จึงจะตกหน้าที่จำเลยนำสืบฉะนั้นคดีนี้โจทก์มีหน้าที่นำสืบประเด็นข้อแรกก่อน แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำสืบก่อนจำเลยไม่คัดค้านและได้นำสืบกันมาแล้ว ศาลก็รับฟังพะยานนั้น ๆ ได้ ประมวลวิธีพิจารณาอาญ ม.๑๗๔ ไม่ห้ามศาลที่จะรับฟัง ซึ่งข้อเท็จจริงก็คงฟังได้ดังศาลล่างวินิจฉัยมา และเห็นชอบด้วยศาลอุทธรณ์ที่ให้ริบทรัพย์ จึงพิพากษายืน

Share