คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้ไม้ตีและชกต่อยผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ แต่จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 340 จำคุก 12 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าของจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงก็ได้ความว่าผู้เสียหายและนายสำเรียงรู้จักจำเลยดี จำเลยทำงานเป็นพ่อบ้านอยู่ที่โรงงานของบริษัทโรงงานผ้าไทย จำกัด ที่เดียวกับผู้เสียหายและนายสำเรียงนั้นเองพยานโจทก์ 2 คนนี้ย่อมจำจำเลยได้ไม่ผิดพลาดแต่ที่ผู้เสียหายและนายสำเรียงเบิกความว่าจำเลยเป็นคนฉุดผู้เสียหายลากลงไปที่นาปลาข้างทาง แล้วชกต่อยชิงทรัพย์ผู้เสียหายขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ศาลชั้นต้นเรียกมาชั้นสอบสวนผู้เสียหายให้การไว้ชัดว่าคนร้ายที่ลากตัวผู้เสียหายลงไปข้างทางและปลุกปล้ำทำร้ายผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ทราบชื่อและนามสกุล คนร้ายคนนั้นจึงไม่ใช่จำเลย ตามคำให้การของผู้เสียหายเมื่อปลุกปล้ำผู้เสียหายแล้ว คนร้ายคนนั้นได้ถือโอกาสกระชากสร้อยคอและชิงทรัพย์อย่างอื่นไปด้วย แสดงว่าจำเลยกับพวกไม่มีเจตนาชิงทรัพย์ผู้เสียหายมาก่อน การที่คนร้ายที่ปลุกปล้ำทำร้ายผู้เสียหายถือโอกาสชิงทรัพย์ของผู้เสียหายในขณะนั้นจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัวของคนร้ายคนนั้น จำเลยไม่ได้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวด้วย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น และคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องมาด้วยว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้ไม้ตีและชกต่อยผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กาย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้ายที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ และพิพากษาลงโทษจำเลยมา ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295, 83 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นและคำขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าของให้ยก”

Share