แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันลักกระบือไป และต่อมาจำเลยกับพวกได้นำกระบือนั้นมาคืนเจ้าทรัพย์โดยพวก จำเลยได้รับค่าไถ่ไป ทั้งนี้โดยจำเลยกับพวกได้รับกระบือไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์และรับของโจรดังนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและขัดกันเองในตัวต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๗ จำเลยกับพวกสมคบกันลักกระบือไป ๔ ตัว ครั้นวันที่ ๒๙ จำเลยกับพวกได้นำกระบือที่หายมาคืนเจ้าทรัพย์โดยพวกจำเลยได้รับค่าไถ่ไปโดยจำเลยกับพวกได้รับกระบือไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์และรับของโจร
ศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องเพราะเห็นว่าฟ้องของโจทก์ขัดกันเอง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมและไม่ขัดกันเองจึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องระบุเจาะจงเอาตัวจำเลยว่าทำการทั้งลักทรัพย์และรับของโจร โดยบรรยายข้อเท็จจริงมาสั้น ๆ ทั้ง ๒ ประการ จำเลยให้การปฏิเสธหมดทั้ง ๒ ฐานดังนี้ เมื่อพิจารณาประกอบกันก็เห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่มีลักษณพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น