คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรไก่ของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ ส่วนข้อหาฐานรับของโจรให้ยกจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ตั้งประเด็นวินิจฉัยว่าจำเลยรับของโจรไถ่ของกลางหรือไม่ แล้วพิพากษากลับให้ยกฟ้อง หาได้วินิจฉัยถึงความผิดฐานลักทรัพย์ตามอุทธรณ์ของจำเลยไม่ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ จำเป็นที่จะต้องย้อนสำนวนเนื่องจากศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา และเพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นไปตามลำดับศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2), 225 ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่ามีคนร้ายลักไก่ตัวเมีย ๑ ตัว ราคา ๓๑ บาท ของนางสวง พินธุพันธ์ ไปโดยทุจริต ผู้เสียหายและเจ้าพนักงานพบไก่ดังกล่าวขังอยู่ในบ้านของจำเลยจึงยึดเป็นของกลาง โดยจำเลยบังอาจลักทรัพย์หรือรับไก่ของกลางไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔, ๓๓๕, ๓๕๗ ให้คืนไก่ของกลางแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การว่าไก่ของกลางเป็นของจำเลย ผู้เสียหายแกล้งกล่าวหาจำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยลักไก่ของผู้เสียหายไม่ใช่รับของโจร พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ จำคุก ๓ เดือน ข้อหาอื่นให้ยกคืนไก่ของกลางแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ได้กระทำผิด ไก่ของกลางเป็นของจำเลย
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้เสียหายกับจำเลยต่างโต้เถียงกรรมสิทธิ์ไก่ของกลาง จำเลยขังไก่ของกลางไว้โดยเปิดเผย พยานหลักฐานโจทก์จึงยังเป็นที่สงสัยไม่แน่ชัดว่าไก่ของกลางจะเป็นของผู้เสียหายที่หายไป ควรยกประโยชน์ให้จำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ส่วนไก่ของกลางให้ไปว่ากล่าวกันในทางคดีแพ่ง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ ส่วนข้อหาฐานรับของโจรให้ยก จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ศาลอุทธรณ์กลับตั้งประเด็นวินิจฉัยว่าจำเลยรับของโจรไก่ของกลางหรือไม่ แล้วพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์หาได้วินิจฉัยถึงความผิดฐานลักทรัพย์ตามอุทธรณ์ของจำเลยไม่ จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการจำเป็นที่จะต้องย้อนสำนวน เนื่องจากศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาและ เพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นไปตามลำดับศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๐๘(๒), ๒๒๕
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยใหม่ตามรูปคดี

Share