แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาที่โจทก์จัดส่งและออกค่าใช้จ่ายให้จำเลยไปฝึกงาน เมื่อจำเลยฝึกงานสำเร็จแล้ว จำเลยจะทำงานให้โจทก์ชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยยอมให้โจทก์กำหนดอัตราเงินเดือนของจำเลยได้ตามความพอใจแต่ฝ่ายเดียวนั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์จำเลยสมัครใจทำกันเอง ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทโจทก์ ต่อมาโจทก์ได้จัดส่งจำเลยที่ ๑ ไปฝึกงานการผลิตพัดลมในประเทศญี่ปุ่น ด้วยทุนทรัพย์และค่าใช้จ่ายของโจทก์ทั้งสิ้น โดยจำเลยทำสัญญาไว้กับโจทก์ว่า เมื่อจำเลยฝึกงานสำเร็จแล้ว จำเลยจะทำงานให้โจทก์มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า ๕ ปี โดยยอมให้โจทก์กำหนดอัตราเงินเดือนของจำเลยที่ ๑ ได้ตามความพอใจแต่ฝ่ายเดียว ถ้าจำเลยที่ ๑ ทำผิดสัญญา ยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกันสัญญาว่า ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ไม่ว่าด้วยประการใด จำเลยที่ ๒ รับชำระแทนทั้งสิ้น เมื่อจำเลยที่ ๑ ฝึกงานสำเร็จแล้ว กลับมาทำงานให้บริษัทโจทก์เพียง ๑ ปี ๓ เดือน จำเลยที่ ๑ ก็ลาออกจากงานไป โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหาย ๖๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระให้จำเลยที่ ๒ ชำระแทนจนครบ
จำเลยทั้งสองให้การว่า เป็นสัญญาบีบบังคับจำเลยแต่เพียงฝ่ายเดียว ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์ได้รับประโยชน์จากจำเลยคุ้มแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน ๔๕,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระให้จำเลยที่ ๒ ชำระแทนจนครบ
จำเลยทั้งสองฎีกาข้อเดียวว่า สัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อสัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และมิใช่เรื่องที่บริษัทโจทก์ได้ประโยชน์ตามสัญญาแต่ฝ่ายเดียว เพราะจำเลยที่ ๑ ไปฝึกงาน โจทก์ต้องออกค่าใช้จ่ายให้จำเลยที่ ๑ ทั้งสิ้น จำเลยที่ ๑ ได้ความรู้ความชำนาญจากการฝึกงาน ทั้งมีโอกาสใช้ความรู้ความชำนาญให้เป็นประโยชน์แก่ตนยิ่งขึ้น จำเลยที่ ๑ จึงต้องตอบแทนโจทก์ด้วยการใช้ความรู้ ความชำนาญที่ได้รับมาให้แก่บริษัทตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ทั้งบริษัทโจทก์มิได้กำหนดให้จำเลยที่ ๑ ต้องทำงานอยู่กับโจทก์จนตลอดชีวิต หรือเป็นระยะเวลานานเกินควร ส่วนตามสัญญาที่ให้บริษัทโจทก์กำหนดอัตราเงินเดือนของจำเลยที่ ๑ ได้ตามความพอใจฝ่ายเดียว จำเลยที่ ๑ จะไม่โต้แย้งให้เพิ่ม ก็เป็นเรื่องให้สิทธิกับบริษัทโจทก์ได้กำหนดอัตราเงินเดือนให้จำเลยที่ ๑ โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่บริษัทโจทก์ได้ออกให้จำเลยที่ ๑ ไปฝึกงาน และจำเลยที่ ๑ ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้มาให้เป็นประโยชน์แก่บริษัทโจทก์เพียงใด การที่จำเลยที่ ๑ ลาออกจากบริษัทโจทก์ไปทำงานที่บริษัทอื่นได้เงินเดือนมากกว่าที่บริษัทโจทก์ให้ ก็เพราะบริษัทอื่นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้จำเลยที่ ๑ ไปฝึกงานและจำเลยที่ ๑ มีความชำนาญแล้ว ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างบริษัทโจทก์และจำเลยที่ ๑ ไท้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน