แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์คืนสมุดบัญชีเงินฝาก1เล่มราคา10บาทให้แก่จำเลยเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เพราะจำเลยมิได้ประสงค์จะถือเอาราคาของกระดาษสมุดบัญชีเงินฝากเป็นสำคัญแต่มุ่งประสงค์เอาหลักฐานการฝากถอนเงินที่มีอยู่ในธนาคารตามสมุดบัญชีเงินฝากเท่านั้นจึงเป็นการฟ้องเรียกหลักฐานการฝากเงินถือว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้เงินที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้กู้ โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกัน โดยเฉพาะจำเลยที่ 2 ได้มอบสมุดบัญชีเงินฝากให้โจทก์ถือไว้เป็นประกันอีก 1 เล่มด้วย ซึ่งจำเลยที่ 2 ได้ให้การปฏิเสธความรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์คืนสมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม ราคา 10 บาท ให้แก่จำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับเฉพาะฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 โดยวินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ข้อกฎหมายของจำเลยที่ 2 เพียงว่า ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2เป็นฟ้องแย้งที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันและฟ้องแย้งขอให้โจทก์คืนสมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่มซึ่งแม้จะระบุราคา 10 บาท มาด้วยก็ตามแต่ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าการฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 เช่นนี้จำเลยที่ 2 มิได้ประสงค์จะถือเอาราคาของกระดาษสมุดบัญชีเงินฝากเป็นสำคัญแต่มุ่งประสงค์เอาหลักฐานการฝากถอนเงินที่มีอยู่ในธนาคารตามสมุดบัญชีเงินฝากเท่านั้นจึงเป็นการฟ้องเรียกหลักฐานการฝากเงินซึ่งเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวง ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว
พิพากษายืน