คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7174/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การรับรถยนต์ไว้เพื่อล้างทำความสะอาดโดยจำเลยมิได้ออกใบรับให้แก่ จ. ผู้นำรถยนต์มาล้าง ตามวิสัยของผู้ประกอบการดังกล่าวควรจะคืนรถยนต์ให้แก่ผู้นำรถยนต์มาล้างเท่านั้น หรือสอบถามให้ได้ความแน่ชัดเสียก่อนจึงจะมอบรถยนต์ให้ผู้อื่นไป พฤติการณ์ดังกล่าวจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นแต่จำเลยหาได้ใช้เพียงพอไม่จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน320,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 6,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น326,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน320,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 320,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2537 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (20 มีนาคม 2538) ต้องไม่เกิน 6,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังยุติว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ หมายเลขทะเบียนค-2550 ชลบุรี จากนายจาตุรงค์ จันทร์ผกา ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.1 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2537 นายจาตุรงค์นำรถยนต์ดังกล่าวไปว่าจ้างให้จำเลยเจ้าของร้านไผ่ทองคาร์แคร์ล้างทำความสะอาดในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้มอบรถยนต์ให้แก่นายเสด็จ น้อยอ่อน ไปเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายเสด็จได้ปรากฏว่ารถยนต์ถูกส่งไปขายยังประเทศกัมพูชาแล้ว โจทก์จึงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน320,000 บาท แก่นายจาตุรงค์ผู้เอาประกันตามสัญญาประกันภัยไปคดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่จำเลยมอบรถยนต์ให้แก่นายเสด็จไปเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือไม่เห็นว่าตามทางนำสืบของโจทก์และจำเลยได้ความว่า นายจาตุรงค์นำรถยนต์ไปล้างที่ร้านของจำเลยเพียงคนเดียวไม่มีบุคคลอื่นรวมทั้งนายเสด็จไปด้วย จำเลยเป็นผู้รับมอบกุญแจรถยนต์ไว้ นายจาตุรงค์บอกกับจำเลยว่าจะมารับรถยนต์ในตอนเย็น แต่ปรากฏว่าจำเลยมอบรถยนต์ให้แก่นายเสด็จไปเมื่อเวลา 18 นาฬิกา โดยไม่ได้สอบถามนายเสด็จว่าเหตุใดนายจาตุรงค์จึงไม่มารับรถยนต์ด้วยตนเอง หรือสอบถามนายเสด็จว่าได้รับมอบหมายจากนายจาตุรงค์ให้มารับรถยนต์หรือไม่ การรับรถยนต์ไว้เพื่อล้างทำความสะอาดโดยจำเลยมิได้ออกใบรับให้แก่นายจาตุรงค์ตามวิสัยของผู้ประกอบการดังกล่าวควรจะคืนรถยนต์ให้แก่ผู้นำรถยนต์มาล้างเท่านั้น หรือสอบถามให้ได้ความแน่ชัดเสียก่อนจึงจะมอบรถยนต์ให้ผู้อื่นไป พฤติการณ์ดังกล่าวจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้น แต่จำเลยหาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย ที่จำเลยอ้างว่านายเสด็จเป็นเพื่อนของนายจาตุรงค์จึงมอบรถยนต์ให้ไปนั้น เห็นว่า เป็นการกระทำที่เสี่ยงภัยของจำเลยเองจำเลยไม่อาจหยิบยกข้อนี้ขึ้นเป็นข้ออ้างเพื่อให้พ้นจากความรับผิดได้จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยในฐานะผู้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share