คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานวางเพลิงตามมาตรา 185 หมายความว่าเป็นการก่อวินาศภัยเป็นการใหญ่ โดยใช้เพลิงเผาผลาญเป็นลักษณะแห่งการกระทำให้เกิดหรือน่าจะเกิดภยันตราย หรือหวานเสียวตื่นเต้นแก่สาธารณะชนถึงแม้จะเป็นผิดเพียงพยายามก็มีความผิดฐานพยายามวางเพลิง ไม่ใช่เรื่องทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 189
ส่วนความผิดตามมาตรา 189 นั้น สำหรับกรณีย์เล็กน้อยไม่เกี่ยวเป็นภยันตรายแก่สาธารณะชนหรือผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งที่แท้เป็นเรื่องทำให้เสียทรัพย์นั่นเอง แต่โดยวิธีใช้ไฟเผา
การที่จะวินิจฉัยว่าเป็นการวางเพลิงจุดเผาทรัพย์ตามความในมาตรา 185 จะต้องดูถึงกิจการที่พึงกระทำนั้นว่า มีลักษณะเป็นเรื่องใหญ่หรือน้อยและอาจเกี่ยวแก่ภยันตรายของบุคคล หรือสาธารณะชนหรือไม่มิใช่ดูแต่ราคาทรัพย์ที่เสียหายว่า ถ้าราคาน้อยแล้ว จะเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์หามิได้
จำเลยใช้ตะเกียงจุดหญ้าที่มุงหลังคาเรือนจนไฟไหม้หญ้าคาไป 4 ตับ โดยจำเลยมีเจตนาจุดเผาเรือนนั้น แม้ทรัพย์ที่ถูกเผาไหม้จะมีราคาเล็กน้อยก็ตาม จะเรียกว่าเป็นการกระทำแก่ทรัพย์มีราคาเล็กน้อยไม่ได้ ด้วยกระทำแก่เคหะสถานทั้งหลัง จำเลยจึงมีความผิดฐานวางเพลิงสำเร็จแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวางเพลิงจุดเผาเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางเขียว ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๘๖, ๑๘๗ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ๒๔๗๕ มาตรา ๔๕ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่า เรือนหลังนี้เป็นของจำเลยเองเมื่อเพลิงติดหลังคาเรือนจำเลยก็คงอยู่ในเรือนและพยายามดับจึงไม่ติดลุกลามมาก ใครจุด หรือเกิดขึ้นอย่างไร จำเลยไม่ทราบศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยได้จุดไฟเผาหญ้าคาหลังคาเรือนรายนี้จริง แต่เรือนหลังนี้เป็นเรือนขนาดเล็ก พื้นฟาก ฝาไม้สาน หลังคามุงหญ้าคา การที่จำเลยจุดเผาหญ้าคาเสียหายไป ๔ ตัด ราคา ๑๒ สตางค์นั้นเป็นการกระทำแก่ทรัพย์อันมีราคาเล็กน้อย ทั้งยังไม่เป็นเหตุใกล้ต่อภยันตรายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และไม่มีลักษณะน่ากลัวจะลุกลามไปถึงเรือนผู้อื่นได้ กรณีต้องด้วยมาตรา ๑๘๙ ก.ม.ลักษณะอาญา จึงให้ถือว่าเป็นความผิดฐานทำหใ้เสียทรัพยื ดังว่าไว้ในมาตรา ๓๒๔, ๓๒๕ และ ๓๒๖ อันเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว แต่คดีนี้ไม่ปรากฏว่านางเขียวผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กับเจ้าพนักงาน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๘๕ หมายความว่าเป็นการก่อวินาศภัย เป็นการใหญ่ โดยวิธีใช้เพลิงเผาผลาญ ย่อมเป็นลักษณะแห่งการกระทำให้เกิดหรือน่าจะเกิดภยันตราย หรือหวาดเสียวตื่นเต้นแก่สาธารณะชน ถึงแม้จะเป็นความผิดฐานพยายาม ก็มีความผิดบานพยามยามวางเพลิง ไม่ใช่เป็นเรื่องทำให้เสียทรัพย์ตามข้อบัญญัติของมาตรา ๑๘๙
ส่วนมาตรา ๑๘๙ นั้น สำหรับกรณีย์เล็กน้อย ไม่เกี่ยวเป็นภยันตรายแก่สาธารณะชนหรือผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งเป็นเรื่องทำให้เสียทรัพยืนั่นเอง แต่โดยวิธีใช้ไฟเผา การที่จะวินิจฉัยว่าเป็นการวางเพลิงจุดเผาทรัพย์ตามมาตรา ๑๘๕ ต้องดูถึงกิจการพึงกระทำนั้นว่า มีลักษณะเป็นเรื่องใหญ่ หรือน้อย และอาจเกี่ยวแก่ภยันตรายของบุคคลหรือสาธารณะชนหรือไม่มิใช่ดูแต่ราคาทรัพย์ที่เสียหายว่า ถ้าราคาเล็กน้อยแล้วจะเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์หามิได้
คดีนี้ จำเลยใช้ตะเกียงจุดหญ้าคามุงหลังคาเรือนจนไฟไหม้หญ้าคาไป ๔ ตับ โดยจำเลยมีเจตนาจุดเผาเรือนนั้น เพราะโกรธนางเขียวไม่อยู่บ้าน แต่ไปอยู่เสียที่อื่น เห็นได้ว่าจำเลยตั้งใจก่อวินาศภัยแก่เรือนนั้นโดยวิธีใช้ไฟเผาผลาญ เพื่อให้หมดสิ้น จะเรียกว่าเป็นการกระทำแก่ทรัพย์สินมีราคาเล็กน้อยไม่ได้ จำเลยมีผิดฐานวางเพลิงสำเร็จแล้ว
พิพากษากลับว่า จำเลยมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๘๖(๑) ประกอบด้วย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา พ.ศ. ๒๔๗๕ มาตรา ๔ จำคุก ๑๐ ปี.

Share