คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7150/2561

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ในกรณีดังต่อไปนี้ … (2) มีกรณีปรากฏต่อศาลว่า (ก) คำชี้ขาดนั้นเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ไม่สามารถจะระงับโดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมาย และมาตรา 11 บัญญัติให้สัญญาอนุญาโตตุลาการต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ทั้งนี้ สัญญาอนุญาโตตุลาการอาจเป็นสัญญาหนึ่งในสัญญาหลัก หรือเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการแยกต่างหากก็ได้ จึงเห็นได้ว่า การระงับข้อพิพาททางอนุญาโตตุลาการเกิดจากข้อตกลงตามสัญญาระหว่างคู่พิพาท ซึ่งในส่วนนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่างานเพิ่มฝั่งสนามกอล์ฟ ผู้เรียกร้องได้เสนอค่างานส่วนนี้ ผู้คัดค้านได้ตรวจสอบค่างานดังกล่าวแล้วเห็นว่ามีมูลค่าสูงเกินไปมาก คู่สัญญาจึงไม่ได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรจะให้ทำงานเพิ่มในส่วนใด เนื้องานแต่ละส่วนมีราคาค่าว่าจ้างเท่าใด อันเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามสัญญารับจ้างเหมาฯ ข้อ 14.5 ที่กำหนดว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาให้ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ทำสัญญาหรือบันทึกคำสั่งเพิ่มเติมขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อเป็นเช่นนี้ กรณีจึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านตกลงให้มีการระงับข้อพิพาทในส่วนนี้ด้วยวิธีการอนุญาโตตุลาการและต้องถือว่าคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการส่วนนี้เป็นคำชี้ขาดเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ไม่สามารถจะระงับโดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 (2) (ก) การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านยังไม่มีการตกลงว่าจ้างผู้ร้องในงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟ และมีผลว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าจ้างหรือผลงานของงานที่ได้ทำไปแล้วในส่วนนี้เลย จึงเป็นการไม่ชอบ ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยดังกล่าว มีความหมายว่าคณะอนุญาโตตุลาการไม่รับวินิจฉัยข้อพิพาทในส่วนนี้ ซึ่งไม่ตรงกับที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยดังกล่าว แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้ด้วย แม้อาจจะแปลตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นได้ว่าผู้ร้องต้องไปเรียกร้องจากผู้คัดค้านเป็นอีกกรณีหนึ่งนอกเหนือจากการเรียกร้องตามสัญญาอนุญาโตตุลาการก็ตาม แต่การที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องมีผลเป็นการยอมรับว่าที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยมาชอบแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ร้องไม่อาจเรียกร้องค่าทำการงานในงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟนี้ตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการที่ว่าไม่มีการตกลงว่าจ้างผู้ร้องให้ทำงานเพิ่มในส่วนนี้ ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบดังได้วินิจฉัยมาแล้วข้างต้น คำสั่งของศาลชั้นต้นในข้อนี้ จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 และเห็นสมควรที่จะเพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนนี้เสีย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดคณะอนุญาโตตุลาการ ฉบับลงวันที่ 14 มกราคม 2559 ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 14/2557 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 2/2559 ของสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลแพ่งพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ผู้ร้องทำสัญญารับจ้างเหมาประกอบติดตั้งงานน้ำพุตกแต่งและไฟประดับโครงการโพธาลัย ไมซ์ กับผู้คัดค้าน ผู้ร้องทำงานและส่งมอบงานแล้วบางส่วน วันที่ 21 มีนาคม 2556 ผู้คัดค้านบอกเลิกสัญญา ผู้ร้องจึงนำข้อพิพาทเสนอให้คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดตามที่กำหนดไว้ในสัญญา คณะอนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ผู้ร้องชำระค่าเสียหายจำนวน 588,113.82 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันครบกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้ร้องได้ทราบคำชี้ขาด
มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องประการแรกว่า ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคณะอนุญาโตตุลาการมีอำนาจในการวินิจฉัยข้อพิพาทตามขอบเขตอำนาจในส่วนของงานเพิ่มของศูนย์ประชุมไมซ์ ฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือไม่ เห็นว่า ในข้อนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการว่า ส่วนกรณีมูลค่างานเพิ่มในส่วนศูนย์ประชุมไมซ์ คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาจากยอดของการชำระเงินที่ไม่ครบถ้วนแล้ววินิจฉัยว่าผู้ร้องส่งมอบงานยังไม่เรียบร้อยจึงไม่มีสิทธิได้เงินส่วนที่เหลือจำนวน 113,649.70 บาท เป็นการวินิจฉัยที่ยังไม่ถูกต้อง ผู้ร้องได้ส่งมอบงานส่วนเพิ่มศูนย์ประชุมไมซ์พร้อมแบบแปลนที่ติดตั้งเสร็จ โดยในชั้นไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการ นายดนุพงษ์ ผู้ควบคุมงานของผู้คัดค้าน ให้การชัดว่าผู้ร้องได้ส่งมอบงานแล้ว ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยไม่ถูกต้องตามหลักทั่วไปของสัญญา และในชั้นที่ผู้ร้องยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการนั้น ผู้ร้องได้เรียกร้องค่างานเพิ่มในส่วนศูนย์ประชุมไมซ์ เป็นเงิน 113,648.78 บาท พร้อมดอกเบี้ยด้วยเป็นข้อ 1.2 อันเป็นการยอมรับอยู่ในตัวว่างานส่วนเพิ่มนี้เป็นข้อเรียกร้องที่คณะอนุญาโตตุลาการมีอำนาจวินิจฉัยตามสัญญาอนุญาโตตุลาการด้วย ดังนี้ เมื่อมีการตกลงให้มีการทำงานเพิ่มตามสัญญาดังกล่าวแล้วย่อมถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญารับจ้างเหมาฯ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นสัญญากันอีกฉบับหนึ่ง การทำงานเพิ่มตามสัญญารับจ้างเหมาฯ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสัญญารับจ้างเหมาฯ ที่อยู่ในบังคับว่าเมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้นจะต้องดำเนินการระงับข้อพิพาทโดยใช้วิธีอนุญาโตตุลาการในประเทศไทยตามสัญญาดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่างานเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งของงานในสัญญารับจ้างเหมาฯ เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้นคณะอนุญาโตตุลาการจึงมีอำนาจในการวินิจฉัยข้อพิพาทนั้นตามขอบเขตแห่งอำนาจที่ปรากฏในข้อ 17 แห่งสัญญาดังกล่าว จึงชอบแล้ว อุทธรณ์ประการนี้ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องประการต่อไปว่า ที่ศาลชั้นต้นยอมรับเห็นชอบตามคำชี้ขาดข้อพิพาทของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนที่เป็นงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 หรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ในกรณีดังต่อไปนี้ … (2) มีกรณีปรากฏต่อศาลว่า (ก) คำชี้ขาดนั้นเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ไม่สามารถจะระงับโดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมาย และมาตรา 11 บัญญัติให้สัญญาอนุญาโตตุลาการต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สัญญา ทั้งนี้ สัญญาอนุญาโตตุลาการอาจเป็นสัญญาหนึ่งในสัญญาหลัก หรือเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการแยกต่างหากก็ได้ จึงเห็นได้ว่า การระงับข้อพิพาททางอนุญาโตตุลาการเกิดจากข้อตกลงตามสัญญาระหว่างคู่พิพาท ซึ่งในส่วนนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่างานเพิ่มฝั่งสนามกอล์ฟ ผู้เรียกร้องได้เสนอค่างานส่วนนี้เป็นเงิน 11,721,704.60 บาท ผู้คัดค้านได้ตรวจสอบค่างานดังกล่าวแล้วโดยให้บริษัท คอสท์ แพลน จำกัด ประเมินราคาแล้วเห็นว่ามีมูลค่าสูงเกินไปมาก คู่สัญญาจึงไม่ได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรจะให้ทำงานเพิ่มในส่วนใด เนื้องานแต่ละส่วนมีราคาค่าว่าจ้างเท่าใด อันเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามสัญญารับจ้างเหมาฯ ข้อ 14.5 ที่กำหนดว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาให้ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ทำสัญญาหรือบันทึกคำสั่งเพิ่มเติมขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อเป็นเช่นนี้ กรณีจึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านตกลงให้มีการระงับข้อพิพาทในส่วนนี้ด้วยวิธีการอนุญาโตตุลาการและต้องถือว่าคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการส่วนนี้เป็นคำชี้ขาดเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ไม่สามารถจะระงับโดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 (2) (ก) การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านยังไม่มีการตกลงว่าจ้างผู้ร้องในงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟ และมีผลว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าจ้างหรือผลงานของงานที่ได้ทำไปแล้วในส่วนนี้เลย จึงเป็นการไม่ชอบ ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยดังกล่าว มีความหมายว่าคณะอนุญาโตตุลาการไม่รับวินิจฉัยข้อพิพาทในส่วนนี้ ซึ่งไม่ตรงกับที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยดังกล่าว แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้ด้วย แม้อาจจะแปลตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นได้ว่าผู้ร้องต้องไปเรียกร้องจากผู้คัดค้านเป็นอีกกรณีหนึ่งนอกเหนือจากการเรียกร้องตามสัญญาอนุญาโตตุลาการก็ตาม แต่การที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องมีผลเป็นการยอมรับว่าที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยมาชอบแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ร้องไม่อาจเรียกร้องค่าทำการงานในงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟนี้ตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการที่ว่าไม่มีการตกลงว่าจ้างผู้ร้องให้ทำงานเพิ่มในส่วนนี้ ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบดังได้วินิจฉัยมาแล้วข้างต้น คำสั่งของศาลชั้นต้นในข้อนี้ จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 และเห็นสมควรที่จะเพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนนี้เสีย อุทธรณ์ของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้น
มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องประการต่อไปว่า คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเรียกค่าลิขสิทธิ์ในรูปลักษณ์ของใบโพธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์และเครื่องหมายการค้าของผู้คัดค้านขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ เห็นว่า แม้จะปรากฏข้อสงวนสิทธิของผู้ร้องในสัญญารับจ้างเหมาฯตามที่ผู้ร้องอ้างว่าลิขสิทธิ์ดังกล่าวผู้ร้องได้สงวนสิทธิไว้แล้วว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ร้อง แต่ก็ปรากฏตามใบสั่งซื้อในเอกสารดังกล่าวรายการที่ 14 ว่า มีการคิดค่าวิชาชีพในการออกแบบเป็นเงิน 500,000 บาท ด้วยแล้ว รูปลักษณ์ใบโพธิ์ที่ผู้ร้องออกแบบตามเครื่องหมายการค้าของผู้คัดค้าน ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ว่าจ้างตามสัญญารับจ้างเหมาฯ ด้วย ดังนี้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าลิขสิทธิ์อื่นนอกเหนือจากข้อตกลงที่ทำกันไว้อีก และเมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้นว่าผู้คัดค้านจะต้องชำระเงินค่าลิขสิทธิ์ในส่วนนี้แก่ผู้ร้องอีกหรือไม่ จึงอยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการที่คณะอนุญาโตตุลาการมีอำนาจที่จะวินิจฉัยได้ การวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการจึงอยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการและไม่เกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาท ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้ยกคำร้องในส่วนนี้มาจึงชอบแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นในส่วนนี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 อุทธรณ์ของผู้ร้องประการนี้ฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาวินิจฉัยประการสุดท้ายตามที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า ผู้คัดค้านได้บอกเลิกสัญญากับผู้ร้องแล้ว สัญญาจ้างรับจ้างเหมาฯ ย่อมเลิกกัน ทำให้คู่ความต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายหลังสัญญาเลิกกันแล้วและให้ผู้ร้องรับผิดต่อผู้คัดค้านจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะคำชี้ขาดวินิจฉัยข้อพิพาทส่วนนี้เกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสอง (2) (ที่ถูก มาตรา 40 วรรคสาม (2) (ง)) เห็นว่า แม้สัญญารับจ้างเหมาฯ เลิกกันโดยผู้คัดค้านได้บอกเลิกสัญญากับผู้ร้องแล้วก็ตาม และมีผลทำให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง แต่การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้นหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสี่ เมื่อสัญญารับจ้างเหมาฯ เป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการ การเรียกร้องค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการเลิกสัญญาจึงอยู่ในขอบเขตที่คณะอนุญาโตตุลาการจะวินิจฉัยชี้ขาดได้ การที่ผู้คัดค้านจำต้องไปว่าจ้างบุคคลภายนอกมาแก้ไขงานที่ผู้ร้องทำไว้ไม่ครบถ้วนถูกต้อง แม้จะเกิดขึ้นภายหลังการบอกเลิกสัญญา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดขึ้นตามสัญญาดังกล่าว คณะอนุญาโตตุลาการจึงมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทในส่วนนี้ตามข้อเรียกร้องแย้งของผู้คัดค้านได้ คำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการมิได้เป็นการไม่ชอบตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม (2) ที่จะต้องเพิกถอนดังที่ผู้ร้องอุทธรณ์ อุทธรณ์ของผู้ร้องประการนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับงานส่วนเพิ่มสนามกอล์ฟ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share