คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7140/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อจากการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางกับจ่าสิบตำรวจ ส. กับพวก จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมในการเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลางระหว่างจำเลยที่ 1 ข. และเจ้าพนักงานตำรวจผู้ล่อซื้อ การเจรจาซื้อขายตกลงกันเรียบร้อยก่อนที่จำเลยที่ 2 จะเข้ามายังที่เกิดเหตุ การที่จำเลยที่ 2เข้าไปดูเงินที่ใช้ล่อซื้อที่ท้ายรถยนต์ของจ่าสิบตำรวจ ส. ก็เพราะ ข. ให้จำเลยที่ 2ไปดูเพื่อให้แน่ใจว่าเงินยังอยู่ หลังจากที่ ข. ไปตรวจนับมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนการที่จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ออกไปเอาเมทแอมเฟตามีนของกลางก็เพราะข. ใช้ให้ไปเอา ซึ่งต้องถือว่าการครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลาง ข. ยังเป็นผู้ครอบครองอยู่จำเลยที่ 2 นำเมทแอมเฟตามีนมายังที่เกิดเหตุเป็นเพียงการนำมาแทน ข. โดยจำเลยที่ 2 ทำตามที่ ข. สั่ง มิได้มีเจตนายึดถือเพื่อตนการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นเพียงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และ ข. กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 9,995 เม็ดคำนวณเป็นเมทแอมเฟตามีนบริสุทธิ์หนัก 245 กรัม ไว้ในครอบครองของจำเลยทั้งสองกับพวกเพื่อจำหน่าย และได้ร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวให้แก่สายลับซึ่งล่อซื้อในราคา 750,000 บาท โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายเจ้าพนักงานจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15,66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคสองประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 เท่านั้น มิใช่เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดตามมาตรา 83 ซึ่งในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งข้อเท็จจริงฟังยุติได้ว่า ก่อนที่เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองจำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อจากการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางกับจ่าสิบตำรวจสุรศักดิ์ อินทชัยและสิบตำรวจตรีอำนาจ พันธ์สระน้อย มาโดยตลอด ส่วนจำเลยที่ 2 เพิ่งเข้ามาร่วมในวันเกิดเหตุโดยก่อนถูกจับ จำเลยที่ 2 ซึ่งมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างได้ขับรถจักรยานยนต์คนละคันกับนายขาวไม่ทราบนามสุกล ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางที่นำไปซ่อนไว้หลังกระจกในฟ้องน้ำของห้องเช่าหมายเลข 108 โรงแรมสะปำอินน์เข้ามายังที่เกิดเหตุด้วยกัน จำเลยที่ 2 เข้าไปดูเงินที่ใช้ล่อซื้อที่ท้ายรถยนต์ของจ่าสิบตำรวจสุรศักดิ์ เมื่อดูเงินแล้วนายขาวบอกให้จำเลยที่ 2 ไปนำเมทแอมเฟตามีนจากที่นายขาวนำไปซ่อนไว้มาให้ จำเลยที่ 2 ก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปตามลำพังประมาณ 10 นาที แล้วนำเมทแอมเฟตามีนของกลางมา เมื่อจ่าสิบตำรวจสุรศักดิ์เปิดดูพบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีน จึงให้สัญญาแก่เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งซุ่มดูอยู่เข้าจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนของกลาง แต่นายขาวเจ้าของผู้ครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางหลบหนีไปได้ ดังนี้ เห็นว่าจำเลยที่ 2 มิได้ร่วมในการเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลาง ระหว่างจำเลยที่ 1 นายขาวและเจ้าพนักงานตำรวจผู้ล่อซื้อแต่อย่างใด การเจรจาซื้อขายตกลงกันเรียบร้อยก่อนที่จำเลยที่ 2 จะเข้ามายังที่เกิดเหตุแล้ว การที่จำเลยที่ 2เข้าไปดูเงินที่ใช้ล่อซื้อที่ท้ายรถยนต์ จ่าสิบตำรวจสุรศักดิ์ก็เพราะนายขาวให้จำเลยที่ 2 ไปดู เพื่อให้แน่ใจว่าเงินยังอยู่ หลังจากที่นายขาวไปตรวจนับมาแล้วครั้งหนึ่งส่วนการที่จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ออกไปเอาเมทแอมเฟตามีนของกลางที่หลังกระจกห้องน้ำห้องหมายเลข 108 โรงแรมสะปำอินน์ นั้นก็เพราะนายขาวใช้ให้ไปเอา ซึ่งต้องถือว่าการครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางนั้นนายขาวยังเป็นผู้ครอบครองอยู่ การที่จำเลยที่ 2 นำเมทแอมเฟตามีนมายังที่เกิดเหตุนั้น เป็นเพียงการนำมาแทนนายขาว โดยจำเลยที่ 2 ทำตามที่นายขาวสั่งเท่านั้นมิได้มีเจตนายึดถือเพื่อตนการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นเพียงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และนายขาวกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 หาใช่เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดตามมาตรา 83 ไม่

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53, 86 การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุกไว้ 33 ปี4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค

Share