คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายก๋วยเตี๋ยว กาแฟ น้ำแข็ง ในตึกพิพาทจดทะเบียนการค้า มีลูกจ้าง 5- 6 คน มีตู้อาหาร โต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งกิน ดังนี้ หาใช่ว่าเป็นการค้าเล็กน้อยไม่
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้ว แม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ ย่อมเป็นการประวิงคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ทำการค้าครบกำหนดแล้วก็ไม่ออกไป ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า เช่าตึกแถวพิพาทเพื่ออยู่อาศัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากตึกพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทำการค้าโดยขายก๋วยเตี๋ยวกาแฟและน้ำแข็งในตึกพิพาท จดทะเบียนการค้าและค้าติดต่อกันมาจำเลยมีลูกจ้าง ๕ – ๖ คน มีตู้อาหารโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งกินอยู่หลายตัวฟังได้ว่ากิจการค้าของจำเลยหาใช่การค้าเล็กน้อยไม่
การที่จำเลยไปค้าขายต่างจังหวัดเป็นเวลานานจึงจะกลับมาครั้งหนึ่ง แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาทเอง โดยให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลยเอง การที่จำเลยและครอบครัวใช้ตึกพิพาทชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย ก็เพื่อความสะดวกในการควบคุมและดำเนินการค้าจึงฟังไม่ได้ว่าตึกพิพาทเป็นเคหะ
การที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้จำเลยสืบพยานตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเเติมของจำเลยก็โดยปรากฏว่าจำเลยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมครั้งที่ ๑ ระบุพยานเพิ่มเติม ๓ คน โดยคนหนึ่งเป็นพยานที่จะต้องส่งประเด็นไปสืบ ศาลชั้นต้นจดรายงานว่า สอบจำเลยเรื่องพยานที่อ้างใหม่และพยานที่จะส่งประเด็นไปสืบ จำเลยแถลงว่า จะขอสืบในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัย สืบข้อนี้ข้อเดียวหมดทุกปาก ข้ออยู่อาศัยจำเลยสืบมาแล้ว ๖ ปาก ศาลชั้นจเห็นว่าเป็นการฟุ่มเฟือยและประวิงคดีมากกว่า จึงไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างพยานเพิ่มเติม ศาลฎีกาเห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยได้สืบพยานไปแล้วถึง ๖ ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาของจำเลยทำการค้าขายก๋วยเตี๋ยวและเครื่องดื่ม ที่จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมนั้น จำเลยว่าจะสืบในข้อที่จำเลยเช่าอาศัย มิได้ค้า จึงไม่มีอะไรสืบนอกเหนือไปจากที่สืบไว้แล้ว จะเป็นการนำสืบซ้ำซากไป แม้จะปล่อยให้สืบก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมให้จำเลยสืบต่อไปจึงเป็นการชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share