คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างระบุไว้ว่า ระหว่างบริษัทโจทก์โดยนางสาว ว.ผู้ว่าจ้างและจำเลยผู้รับจ้าง เมื่อนางสาว ว. ลงนามในสัญญาและบริษัทโจทก์ได้ยอมรับเอาผลงานที่จำเลยทำให้ตามสัญญาจนกระทั่งบริษัทโจทก์ได้จ่ายค่าจ้าง ให้จำเลยครบถ้วนตามสัญญาแล้วแม้จะไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
สัญญาจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาลมิได้กำหนดเวลาที่ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่อง ผู้รับจ้างต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องที่ปรากฏขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600 โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้รับจ้างใช้เครื่องยนต์เก่าหรือไม่ เว้นแต่ความชำรุดบกพร่องจะเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ว่าจ้าง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัด มีนายงื่ออิน แซ่ตั้ง กรรมการลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทได้และต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย จำเลยได้ทำสัญญารับจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาลที่โรงงานของโจทก์ ๑ บ่อ เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท เมื่อจำเลยเจาะบ่อน้ำบาดาลและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสร็จและได้รับเงินค่าจ้างไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว อีกประมาณ ๓ เดือน ต่อมาปรากฏว่าเครื่องสูบน้ำเสียเนื่องจากจำเลยใช้เครื่องสูบน้ำที่เป็นของเก่าซึ่งเคยใช้งานมาก่อนแล้ว ไม่ใช่ของใหม่ตามสัญญา จำเลยไม่สามารถแก้ไขให้เครื่องสูบน้ำใช้การได้ โจทก์ได้รับความเสียหายต้องจ้างบุคคลอื่นมาแก้ไขเสียค่าจ้างไป ๔๐,๐๐๐ บาท และเสียค่าจ้างบุคคลอื่นสูบน้ำมาใช้ระหว่างที่ซ่อมเครื่องสูบน้ำเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญากับบริษัทโจทก์ จำเลยทำสัญญากับนางสาว ว.ตามสัญญาท้ายฟ้องจริง แต่สัญญาดังกล่าวไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ เพราะกรรมการที่ลงลายมือชื่อไม่มีตราสำคัญของบริษัทโจทก์ประทับ บริษัทโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เครื่องสูบน้ำที่ใช้เป็นของใหม่ ถ้าโจทก์เสียหายจริงก็ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท โจทก์มิได้บอกกล่าวก่อนฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่ได้ใช้เครื่องสูบน้ำใหม่ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่อง พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๕,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความ ๒,๐๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๑,๐๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาดังกล่าวได้ระบุไว้ด้วยว่านางสาววิมลรัตน์ตั้งอรุณรัศมี ลงนามในสัญญาในฐานะผู้แทนบริษัท และบริษัทโจทก์ได้ยอมรับเอาผลงานที่จำเลยได้ทำตามสัญญาจนกระทั่งบริษัทได้จ่ายค่าจ้างให้จำเลยครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แม้จะไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์พิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่า เครื่องสูบน้ำที่นำมาใช้เป็นของเก่า ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาลมิได้กำหนดเวลาที่จำเลยจะต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่อง จำเลยจึงต้องรับผิดเพื่อการชำรุดบกพร่องที่ปรากฏขึ้นภายในหนึ่งปีนับแต่วันส่งมอบตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๐๐ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์เก่าหรือไม่ ดังที่คู่ความโต้เถียงกันมา เว้นแต่ความชำรุดบกพร่องจะเกิดขึ้นเพราะความผิดของโจทก์ ซึ่งไม่มีประเด็นวินิจฉัย
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เสียหายเพียง ๓๕,๐๐๐ บาท และโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบก่อนฟ้องแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share