คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การทำร้ายแค่ไหนจะถือว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตาม มาตรา 295 แห่งประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่นั้น จำต้องพิจารณาถึงการกระทำของจำเลยและบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับประกอบกัน
จำเลยเพียงแต่ใช้เท้าเตะและใช้มือตบผู้เสียหาย มิได้ใช้อาวุธทำร้ายผู้เสียหายได้รับบาดแผลเพียงฟกช้ำเท่านั้นและรักษาเพียง 5 วันก็หายยังถือไม่ได้ว่าเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 คงเป็นผิดตามมาตรา 391 เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295

จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การที่จำเลยใช้มือตบและเท้าเตะผู้เสียหายเป็นรอยฟกช้ำที่ข้อมือซ้าย 1 แห่ง กว้าง 3 เซ็นติเมตร ยาว 4 เซ็นติเมตร รักษาประมาณ 5 วันหายนั้น ยังไม่เป็นผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แต่เป็นผิดฐานใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ให้ปรับจำเลย 400 บาท จำเลยให้การรับสารภาพโดยดีปราณีลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 200 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตาม มาตรา 295 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นั้น จำต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำและบาดแผลที่ถูกทำร้ายได้รับ ว่าการกระทำรุนแรงถึงขนาดหรือไม่ และบาดแผลที่ผู้ถูกทำร้ายได้รับมากน้อยเพียงไร ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความว่า จำเลยเพียงแต่ใช้เท้าเตะและใช้มือตบนางคร้ามมิได้ใช้อาวุธทำร้าย นางคร้ามได้รับบาดแผลเพียงฟกช้ำเท่านั้น และรักษาเพียง 5 วันก็หาย การกระทำของจำเลยไม่รุนแรงถึงขนาด ยังถือไม่ได้ว่าเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 คำพิพากษาฎีกาที่ 116/2503 ที่โจทก์อ้างมาไม่ตรงกับรูปคดีนี้จึงพิพากษายืน

Share