คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2224/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ฟ้องบรรยายว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาไม่นำพาที่จะอยู่ร่วมกับโจทก์ ไม่อ้างว่าจำเลยละทิ้งโจทก์ ไม่เป็นเหตุหย่าตาม มาตรา 1516(4) จำเลยไม่ไปอยู่กับโจทก์ต่างอำเภอโจทก์ก็มาหาจำเลยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งจำเลยยอมให้โจทก์อยู่กินหลับนอนด้วย ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรง ไม่เป็นเหตุหย่า

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ได้กำหนดเหตุที่จะฟ้องหย่าไว้ 10 เหตุ เฉพาะเหตุที่ 4 มีความว่า”สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี” โจทก์บรรยายฟ้องและนำสืบเป็นทำนองว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาโจทก์ไม่นำพาต่อการที่จะไปอยู่ร่วมกับโจทก์แต่ก็มิได้อ้างว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ จึงไม่ต้องพิจารณาถึงเหตุนี้ส่วนที่โจทก์อ้างว่าการที่จำเลยไม่ไปอยู่ร่วมกับโจทก์ เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516(6)แต่โจทก์ก็มิได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า การกระทำของจำเลยถึงขนาดที่ทำให้โจทก์เดือดร้อนเกินควรตามที่มาตรา 1516(6) กำหนดไว้ ทั้งเมื่อได้พิจารณาทางนำสืบของโจทก์ก็ปรากฏว่าเมื่อจำเลยไม่ไปอยู่กับโจทก์ โจทก์ก็มาหาจำเลยเป็นประจำนายภูวดล เปรือรัมย์พยานโจทก์เบิกความว่า โจทก์มาหาจำเลยประมาณเดือนละ 2 ครั้ง และมาอยู่กินหลับนอนที่บ้านจำเลย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากพยานโจทก์เองว่า จำเลยยอมให้โจทก์ไปกินอยู่หลับนอนด้วย การที่จำเลยไม่ติดตามไปอยู่ร่วมกับโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากับโจทก์อย่างร้ายแรงถึงขนาดที่โจทก์เดือดร้อนเกินควรโจทก์จึงจะฟ้องหย่าจำเลยเพราะเหตุนี้ไม่ได้”

พิพากษายืน

Share