คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อนุญาตให้ภรรยาฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นที่ที่ภรรยาได้รับมรดกมาตามพินัยกรรมครั้นภรรยาไปทำยอมยกที่พิพาทให้จำเลยจนศาลพิพากษาตามยอมนั้นแล้ว สามีจะกลับเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอีกโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตนได้มาโดยการครอบครองไม่ใช่ทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม หาได้ไม่

ย่อยาว

คดีได้ความว่าเดิมโจทก์ได้ทำหนังสืออนุญาตให้นางชุมภรรยาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้แสดงว่าที่ดินหลายแปลงเป็นของนางชุมตามพินัยกรรมนางเพี้ยน ต่อมานางชุมได้ทำหนังสือสัญญาประนีประนอมกับจำเลย ยอมแบ่งที่นาแปลงหนึ่งให้จำเลยคือแปลงที่พิพาทในคดีนี้ศาลพิพากษาตามยอมไปแล้วตามคดีแพ่งแดงที่ 62/2496 โจทก์จึงฟ้องคดีนี้อ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองกว่า 15 ปีเศษแล้วขอให้ห้ามจำเลยมิให้มาเกี่ยวข้อง

จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะเป็นฟ้องซ้ำกับคดีที่โจทก์อนุญาตให้ภรรยาฟ้องจำเลย ฯลฯ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะได้อนุญาตให้ภรรยาดำเนินคดีเกี่ยวกับที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 38 จนปรองดองกันแล้ว โจทก์จะมารื้อฟื้นอ้างเหตุแตกต่างออกไปอีกว่าเป็นที่ของโจทก์ไม่ใช่ของผู้ทำพินัยกรรมให้หาได้ไม่ พิพากษายืน

Share