คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3516/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้จำเลยได้ให้การในชั้นสอบสวนว่า จำเลยซื้อฝิ่นมาจาก น. ตามบันทึกคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวน แต่ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวขยายผลจับกุมบุคคลที่จำเลยกล่าวอ้างได้หรือไม่อย่างไร คำให้การของจำเลยยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 17, 69, 102 ริบฝิ่นและอุปกรณ์จำหน่ายฝิ่นของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 17 วรรคสอง, 69 วรรคสาม, 100/1 (ที่ถูกมาตรา 100/1 วรรคสอง), 102 จำคุก 5 ปี และปรับ 50,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 25,000 บาท ริบฝิ่นและอุปกรณ์จำหน่ายฝิ่นของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า สมควรลงโทษจำเลยสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นับเป็นต้นเหตุทำให้ยาเสพติดให้โทษแพร่ระบาดสู่ประชาชน อันเป็นการทำให้ผู้คนตกเป็นทาสของยาเสพติดให้โทษเพิ่มมากขึ้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองวางโทษก่อนลดให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปี นั้น เป็นการวางโทษจำคุกขั้นต่ำสุดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ส่วนโทษปรับ ศาลล่างทั้งสองก็ได้พิเคราะห์ถึงความร้ายแรงของการกระทำความผิด และฐานะของจำเลยประกอบแล้วว่ากรณีมีเหตุอันสมควรเป็นการเฉพาะรายของจำเลย จึงลงโทษปรับน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/1 วรรคสอง ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้ว ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า เมื่อจำเลยถูกจับกุม จำเลยได้ให้การรับสารภาพและแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าจำเลยซื้อฝิ่นมาจากนางน้อย ไม่ทราบชื่อสกุล โดยนางน้อยจะนำมาส่งให้ในราคากิโลกรัมละ 35,000 บาท และจำเลยจะนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั่วไป อันเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่พนักงานสอบสวน จึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 นั้น เห็นว่า แม้จะฟังได้ว่าจำเลยได้ให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยซื้อฝิ่นมาจากนางหรือนายน้อย ไม่ทราบชื่อจริง ตามบันทึกคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเอกสารหมาย จ.6 ก็ตาม แต่ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวขยายผลจับกุมบุคคลที่จำเลยกล่าวอ้างได้หรือไม่อย่างไร คำให้การของจำเลยดังกล่าวยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ และที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยกำลังตั้งครรภ์และไม่เคยกระทำความผิดใดๆ มาก่อน ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share