คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องแก่ทุกฝ่ายและนัดพร้อมกันเพื่อสอบถาม ทนายของจำเลยได้รับหมายนัดและสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ดังกล่าวแล้วแต่ในวันนัดจำเลยและทนายไม่ไปศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องและไม่ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าจะคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องหรือไม่ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยไม่คัดค้านและมีคำสั่งเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2507 อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น เพิ่งจะมายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2514 ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ดังนี้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้จึงถึงที่สุด จำเลยจะร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 2ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้และเจ้าพนักงานบังคับคดีศาลจังหวัดธัญญบุรีได้ยึดทรัพย์ดังกล่าวแทนกองหมายแล้ว

คุณหญิงอัมพร ทิพยมณเฑียร ร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 874/2504 ของศาลแพ่งที่ให้จำเลยทั้งสองใช้เงิน 30,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องจะนำยึดขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษาจึงขอให้ศาลมีคำสั่งยอมให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยเงินที่ขายหรือจำหน่ายที่ดินของจำเลยที่ 2 ดังกล่าว

ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องดังกล่าวของผู้ร้องแก่ทุกฝ่ายและนัดพร้อมกันเพื่อสอบถาม โจทก์และทนายจำเลยทั้งสองได้รับหมายนัดและสำเนาคำร้องของผู้ร้องดังกล่าวแล้วในวันนัดคือวันที่ 6 พฤษภาคม 2507 โจทก์ไม่ไปศาลแต่ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าโจทก์ไม่คัดค้านการขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์รายนี้ส่วนจำเลยทั้งสองไม่ไปศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องและไม่ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าจะคัดค้านการขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้หรือไม่ ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยไม่คัดค้านจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้

ต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 2514 จำเลยที่ 1 ร้องว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 874/2504 นั้น ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินตามสัญญาท้ายฟ้องให้โจทก์ ถ้าจำเลยไม่โอนก็ให้จำเลยชำระเงิน 300,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยซึ่งจำเลยจะต้องชำระเงินให้ผู้ร้องต่อเมื่อจำเลยไม่โอนที่ดินให้ผู้ร้อง แต่เมื่อผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์โดยยังมิได้ส่งคำบังคับให้จำเลย จำเลยจึงยังไม่ต้องชำระเงินให้ผู้ร้องเพราะยังไม่ทราบว่าจำเลยสามารถโอนที่ดินให้ผู้ร้องได้หรือไม่ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยทรัพย์ได้นั้นเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ในการพิจารณาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ศาลได้แจ้งวันนัดให้จำเลยทราบแล้ว เมื่อศาลมีคำสั่งในเรื่องขอเฉลี่ยในวันนัดต้องถือว่าจำเลยทราบคำสั่งในวันนั้นแล้ว จำเลยไม่อุทธรณ์ภายในกำหนด ต้องถือว่าปัญหาในเรื่องขอเฉลี่ยทรัพย์ยุติ มีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 1 เสีย

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องแก่ทุกฝ่ายและนัดพร้อมกันเพื่อสอบถามนั้น ทนายของจำเลยทั้งสองได้รับหมายนัดและสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องแล้ว แต่ในวันนัดจำเลยทั้งสองและทนายไม่ไปศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง และไม่ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าจะคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องหรือไม่ จึงถือว่าจำเลยทั้งสองไม่ติดใจคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้อง หากเห็นว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องอย่างไร ชอบที่จำเลยทั้งสองจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น แต่จำเลยทั้งสองมิได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2507 จำเลยเพิ่งจะมายื่นคำร้องนี้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2514 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้จึงถึงที่สุด จำเลยทั้งสองจะขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นไม่ได้ ฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share