แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ขนส่งได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งที่ท่าเรือเกาะสีชังโดยขนถ่ายสินค้าจากเรือลงบรรทุกในเรือลำเลียงและการขนถ่ายสินค้าลงเรือลำเลียงแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2539 ถือได้ว่า ผู้ขนส่งได้ส่งมอบสินค้าที่ขนส่งให้แก่ผู้รับตราส่งแล้วในวันดังกล่าว ซึ่งผู้รับตราส่งต้องฟ้องผู้ขนส่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแห่งสินค้าที่ขนส่งภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ขนส่งได้ส่งมอบของ ตาม พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534 มาตรา 46 โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้รับตราส่งจึงต้องฟ้องผู้ขนส่งภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวด้วย
ตามคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์เป็นการขอแก้ไขวันและสถานที่ที่ผู้ขนส่งส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่ง จากวันที่ 7 มกราคม 2539 ที่ท่าเรือเกาะสีชัง เป็นวันที่ 16 มกราคม 2539 ที่ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งก่อให้เกิดผลตามกฎหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรับผิดของผู้ขนส่ง และการเริ่มนับอายุความในการฟ้องร้องผู้ขนส่ง ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี จึงมิใช่เป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อย ทั้งเป็นการขอแก้ไขภายหลังวันชี้สองสถาน ที่โจทก์อ้างว่าเพิ่งทราบข้อเท็จจริงตามที่ขอแก้ไขคำฟ้อง ก็ปรากฏว่าการส่งมอบสินค้าเกิดขึ้นก่อนโจทก์ขอแก้ไขฟ้องถึง 3 ปีเศษ กรณีไม่มีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนนั้น การแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบที่จะกระทำได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน ๔,๗๘๓,๑๙๗.๓๖ บาท ฐานผิดสัญญารับขนของทางทะเลกับผู้มีชื่อที่โจทก์รับประกันภัยไว้ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องคิดเป็นเงิน ๓๓๖,๘๑๖ บาท
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๓ ให้การขอให้ยกฟ้อง
หลังวันชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า บริษัทเอ็น. เอช. เค. สตีล จำกัด ได้สั่งซื้อสินค้าแผ่นเหล็กรีดเย็นในคอยล์จำนวน ๑๒๐ ม้วน จากผู้ขายในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี และเอาประกันภัยไว้แก่โจทก์ในวงเงิน ๑๘,๖๖๙,๗๔๑ บาท ผู้ขายได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๑ ขนส่งสินค้าดังกล่าวโดยเรือชื่อเวนโต้จากท่าเรือกวางยาง เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้รับตราส่งที่กรุงเทพมหานคร วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๙ เรือเวนโต้เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี จากนั้นมีการขนถ่ายสินค้าดังกล่าวจากเรือเวนโต้ลงเรือลำเลียง ๒ ลำ ไปยังท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือศรีกรุงธนตามลำดับ แล้วขนขึ้นรถยนต์บรรทุกไปที่คลังสินค้าของผู้รับตราส่ง ปรากฏว่าสินค้าดังกล่าวจำนวน ๔๔ ม้วน ได้รับความเสียหายเกิดสนิมเนื่องจากถูกน้ำจืด โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน ๖,๘๒๐,๑๘๘.๓๖ บาท ให้แก่บริษัทเอ็น. เอช. เค. สตีล จำกัด ผู้เอาประกันภัยไปและรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องเอาแก่จำเลยทั้งสาม
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ข้อแรกว่า คดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อเรือเวนโต้เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๙ แล้ว บริษัทเอ็น. เอช. เค สตีล จำกัด ผู้รับตราส่งได้เรียกร้องให้จำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้รับขนส่งทางทะเลทอดสุดท้ายส่งมอบสินค้าแผ่นเหล็กรีดเย็นในคอยล์ให้แก่ผู้รับตราส่ง และผู้รับตราส่งได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ ๓ ขนส่งสินค้าดังกล่าวทางน้ำและทางบกจากเรือเวนโต้ซึ่งจอดลอยลำอยู่ที่ท่าเรือเกาะสีชังไปยังคลังสินค้าของผู้รับตราส่งโดยจำเลยที่ ๓ ได้นำเรือฉลอม ๒ ลำ ไปขนถ่ายสินค้าลงข้างลำเรือเวนโต้ ตามคำบรรยายฟ้องดังกล่าวแสดงว่าผู้ขนส่งได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งที่ท่าเรือเกาะสีชัง โดยขนถ่ายสินค้าข้างลำเรือจากเรือเวนโต้ลงบรรทุกในเรือลำเลียงและการขนถ่ายสินค้าลงเรือลำเลียงแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๓๙ ถือได้ว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ผู้ขนส่งได้ส่งมอบสินค้าที่ขนส่งให้แก่ผู้รับตราส่งแล้วในวันดังกล่าว ซึ่งผู้รับตราส่งต้องฟ้องผู้ขนส่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแห่งสินค้าที่ขนส่งภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่ผู้ขนส่งได้ส่งมอบของตาม พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔๖ โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งจึงต้องฟ้องผู้ขนส่งภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวด้วย
ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า ตามคำร้องของโจทก์เป็นการขอแก้ไขวันและสถานที่ที่ผู้ขนส่งส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่ง จากวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๙ ที่ท่าเรือเกาะสีชัง เป็นวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๙ ที่ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งก่อให้เกิดผลตามกฎหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรับผิดของผู้ขนส่ง และการเริ่มนับอายุความในการฟ้องร้องผู้ขนส่ง ทำให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เสียเปรียบในการต่อสู้คดี จึงมิใช่เป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อย ทั้งเป็นการขอแก้ไขภายหลังวันชี้สองสถาน ที่โจทก์อ้างว่าเพิ่งทราบข้อเท็จจริงตามที่ขอแก้ไขคำฟ้อง ก็ปรากฏว่าการส่งมอบสินค้าเกิดขึ้นก่อนโจทก์ขอแก้ไขฟ้องถึง ๓ ปีเศษ กรณีไม่มีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนนั้น การแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบที่จะกระทำได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน.