คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6934/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ส.เป็นญาติกับผ. บิดาผู้เสียหายไปไถ่รถจักรยานยนต์จาก ช.มาให้ผ.ได้เพราะจำเลยเป็นผู้ติดต่อบอกเบาะแสและพา ส.ไปเอารถจักรยานยนต์โดยจำเลยทราบว่าส. เป็นญาติกับผ.และส. ได้มอบเงินค่าไถ่รถจักรยานยนต์ให้จำเลยแล้ว จึงได้รถจักรยานยนต์คืนมา มิใช่จำเลยไปเป็นเพื่อน ส. เพื่อไถ่รถจักรยานยนต์ การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือคนร้ายจำหน่ายรถจักรยานยนต์อันเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ เป็นความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งรถจักรยานยนต์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357, 83
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357, 83 จำคุก 3 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรหรือไม่ โจทก์มีนายสำเริงเบิกความว่าขณะที่พยานกำลังซ่อมรถอยู่ที่บ้าน จำเลยพร้อมกับชายอีกคนหนึ่งมาหาบอกว่าจะไถ่รถหรือไม่ พยานเข้าใจว่าหมายถึงรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่หายไป พยานบอกกับจำเลยว่าต้องสอบถามเจ้าของรถก่อน วันเดียวกันเวลาประมาณ 17 นาฬิกา พยานได้ไปสอบถามนายผ่อน นายผ่อนตกลงและมอบเงินให้พยาน 8,000 บาท พยานได้นำเงินไปมอบให้จำเลย จำเลยพาไปเอารถจักรยานยนต์จากนายเชิดแล้วนำรถจักรยานยนต์ไปมอบให้นายผ่อน นายผ่อนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสนับสนุนว่า ได้มอบเงินจำนวน 8,000 บาทให้นายสำเริงไป และนายสำเริงได้นำรถจักรยานยนต์ที่ถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ไปมาให้จริง แสดงให้เห็นว่า นายสำเริงไปไถ่รถจักรยานยนต์มาให้นายผ่อนได้ เพราะจำเลยเป็นผู้ติดต่อบอกเบาะแสให้นายสำเริงทราบ ที่จำเลยนำสืบว่า นายสำเริงเป็นคนชวนจำเลยไปเป็นเพื่อนเพื่อไถ่รถจักรยานยนต์ ไม่ปรากฏว่านายสำเริงรู้จักนายเชิดและที่อยู่ของนายเชิดมาก่อนทั้งไม่ปรากฏว่า นายสำเริงทราบจากใครว่ารถจักรยานยนต์อยู่ที่นายเชิดนอกจากจำเลยเท่านั้น และนายสำเริงก็ได้มอบเงินจำนวน 8,000 บาท ให้จำเลยแล้วจึงได้รถจักรยานยนต์มา จากเหตุผลดังกล่าวฟังไม่ได้ว่าจำเลยไปเป็นเพื่อนนายสำเริงเพื่อไถ่รถจักรยานยนต์ การที่จำเลยไปติดต่อนายสำเริงให้นายผ่อนไถ่รถก็น่าจะทราบว่านายสำเริงเป็นญาติกันนายผ่อน บิดาผู้เสียหายการกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือคนร้ายจำหน่ายรถจักรยานยนต์ อันเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการทำความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสอง
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา357 วรรคสอง ให้จำคุกจำเลยไว้ 2 ปี

Share