คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรต่อศาลแขวง จำเลยรับสารภาพ ฐานรับของโจร ศาลแขวงสั่งคดีมีมูลเฉพาะข้อหาฐานรับของโจร อัยการฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลอาญานั่งประทับฟ้องฐานรับของโจร จำเลยรับสารภาพ โจทก์ จำเลย แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำเลยฐานรับของโจร โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ประทับฟ้องลักทรัพย์ ดังนี้ ผลของคดีจำเลยย่อมรับโทษฐานรับของโจรตามความประสงค์ ของโจทก์แล้ว คดีไม่เป็นประโยชน์แก่โจทย์อย่างใด จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะวินิจฉัยฎีกาของโจทก์

ย่อยาว

คดีผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยเลยฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจรต่อศาลแขวงธนบุรี จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลแขวงธนบุรีสั่งคดีมีมูลเฉพาะข้อหาฐานรับของโจร พนักงานอัยการเห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกันกับความผิดฐานรับของโจร พนักงานอัยการจึงฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์เพิ่มอีกฐานหนึ่ง ต่อศาลอาญา ศาลอาญาสั่งประทับฟ้อง เฉพาะความผิดฐานรับของโจร ส่วนความผิดฐานลักทรัพย์ไม่รับฟ้อง
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับทรัพย์ของกลางรายนี้ไว้โดยรู้ว่าได้มาจากการลักทรัพย์จริง
โจทก์ จำเลย ไม่สืบพยาน
ศาลอาญา พิพากษาจำคุกจำเลย ๔ เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗, ๗๘
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลอาญาประทับรับฟ้องฐานลักทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์ จำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ผลของคดี คือ จำเลยรับโทษฐานรับของโจรตามประสงค์ของโจทก์แล้ว โจทก์อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาจึงไม่เป็นประโยชน์สำหรับคดีนี้
พิพากษายืน

Share