คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มิได้บัญญัติถึงวิธีการหรือหลักเกณฑ์ในการขอแก้ไขคำฟ้องไว้ จึงต้องนำ ป.วิ.พ. มาตรา 180 มาใช้บังคับโดยอนุโลมตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31 ซึ่งมาตรา 180 บัญญัติว่า “การแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การที่คู่ความเสนอต่อศาลไว้แล้วให้ทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลก่อนวันชี้สองสถาน หรือก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ในกรณีที่ไม่มีการชี้สองสถาน…” ดังนั้น การที่ในวันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ คู่ความมาศาล ศาลแรงงานกลางไกล่เกลี่ยแล้วยังตกลงกันไม่ได้จึงกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วนัดสืบพยานโจทก์ การกำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดวันนัดสืบพยานดังกล่าวของศาลแรงงานกลางเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไปตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วไม่จำต้องนำเรื่องการชี้สองสถานตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 183 มาใช้บังคับ ถือได้ว่าคดีแรงงานไม่มีการชี้สองสถาน เมื่อไม่มีการชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องโดยเป็นการแก้ไขในรายละเอียดและเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์ ซึ่งเป็นข้อที่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ทั้งโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขคำฟ้องได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 179 และมาตรา 180 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า คำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ของจำเลยที่ 1 ที่สั่งให้จำเลยที่ 2 นายจ้างของโจทก์จ่ายค่าจ้างในวันลาป่วย ค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณี ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเป็นเงิน 10,549.93 บาท ให้แก่โจทก์นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินดังกล่าวเพิ่มให้แก่โจทก์และให้จ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ด้วย
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ ศาลแรงงานกลางได้ไกล่เกลี่ยแล้วยังตกลงกันไม่ได้ จึงกำหนดประเด็นข้อพิพาท และนัดสืบพยานโจทก์ไป
ก่อนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในวันนัดสืบพยานโจทก์ว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องภายหลังจากที่ศาลได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้ว ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ว่าคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์เป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องก่อนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ถึงครึ่งเดือน ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ คำสั่งศาลแรงงานกลางที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มิได้บัญญัติถึงวิธีการหรือหลักเกณฑ์ในการขอแก้ไขคำฟ้องไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 มาใช้บังคับโดยอนุโลมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 ซึ่งมาตรา 180 บัญญัติว่า “การแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การที่คู่ความเสนอต่อศาลไว้แล้วให้ทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันในกรณีที่ไม่มีการชี้สองสถาน…” คดีนี้ได้ความว่าวันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์คู่ความมาศาล ศาลแรงงานกลางไกล่เกลี่ยแล้วยังตกลงกันไม่ได้ จึงกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วให้นัดสืบพยานโจทก์วันที่ 24 ธันวาคม 2545 ครั้งถึงวันนัดศาลแรงงานกลางอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 1 กรกฎาคม 2546 การกำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดวันสืบพยานดังกล่าวของศาลแรงงานกลางเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วไม่จำต้องนำเรื่องการชี้สองสถานตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 มาใช้บังคับ ถือได้ว่าคดีแรงงานไม่มีการชี้สองสถาน เมื่อคดีนี้ไม่มีการชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องฉบับลงวันที่ 17 มิถุนายน 2546 ซึ่งยื่นก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โจทก์จึงมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องได้และเห็นว่า คำร้องขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์เป็นการแก้ไขในรายละเอียดและเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์ ซึ่งเป็นข้อที่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ทั้งโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขคำฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 และมาตรา 180 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 ที่ศาลแรงงานกลางไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและยกคำร้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 17 มิถุนายน 2546

Share