คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6830/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 6 เดือน เป็นการคำนวณโทษผิดพลาด ที่ถูกเป็นจำคุก 3 ปี 4 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยมิได้แก้ไขจึงไม่ถูกต้อง แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหานี้ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 225 ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๖, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖, ๖๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓, ๘๓ ริบเงินสดจำนวน ๘๐๐ บาท ของกลาว ส่วนธนบัตรจำนวน ๔๘๐ บาท ของกลางที่ใช้ล่อซื้อคืนแก่เจ้าของ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง, ๖๖ วรรคหนึ่ง จำคุก ๕ ปี คำให้การจำเลยที่ ๑ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน คืนธนบัตรจำนวน ๔๘๐ บาท ของกลางที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของ คำขออื่นให้ยก และให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ร้อยตำรวจตรีอดิศร ทัศนพงษ์ กับพวกร่วมกันจับกุมจำเลยทั้งสอง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้โดยปราศจากความสงสัยว่า จำเลยที่ ๑ กระทำความผิดตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ชอบแล้ว แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๕ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน เป็นการคำนวณโทษผิดพลาด ที่ถูกเป็นจำคุก ๓ ปี ๔ เดือน และ ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายืน โดยมิได้แก้ไขนั้น จึงไม่ถูกต้อง แม้จำเลยที่ ๑ จะมิได้ฎีกาในปัญหานี้ แต่ปัญหา ดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕ ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
พิพากษาแก้เป็นวา เมื่อลดโทษให้หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓ ปี ๔ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔

Share