แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า ได้กู้เงินจำเลยไปและมอบสวนยางให้จำเลยเป็นประกัน บัดนี้จำเลยไม่ยอมให้ไถ่สวนยางคืน แต่จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในสวนยางรายนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ประเด็นในคดีจึงมีว่า โจทก์ได้สละสิทธิในสวนยางรายนี้ให้แก่จำเลยแล้วหรือไม่การที่จำเลยจะเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ จะได้สิทธิในสวนยางตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวเพียงไรหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย เมื่อปรากฎว่า โจทก์สละสิทธิในสวนยางให้จำเลยแล้ว โจทก์ก็ย่อมหมดสิทธิที่จะมาขอให้ศาลบังคับจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า กู้เงินจำเลยไปแล้วมอบสวนยางให้ทำต่างดอกเบี้ย บัดนี้ขอชำระเงินและคืนสวนยาง จำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลบังคัง
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์กู้เงินไปและมอบสวนยางเป็นประกันจริง แต่มีข้อสัญญาว่าเมื่อครบ ๖ เดือนแล้วถ้าโจทก์ไม่ชำระหนี้ โจทก์ ยอมให้สวนยางเป็นของจำเลย บัดนี้ครบ ๖ เดือนมานานแล้ว ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างขึ้นมาว่า ได้กู้เงินจำเลยไปแลมอบสวนยางให้จำเลยเป็นประกัน บัดนี้จำเลยไม่ยอมให้โจทก์ไถ่สวนยางคืน แต่ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ได้สละสิทธิในสวนยางรายนี้ให้แก่จำเลยแล้ว ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์ได้สละสิทธิในสวนยางรายนี้ให้แก่จำเลยดังข้อต่อสู้ โจทก์ก็ย่อมหมดสิทธิที่จะมาขอให้ศาลบังคับจำเลยได้ การที่จำเลยจะเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ หาทำให้โจทก์กลับมีสิทธิจะไถ่ถอนสวนยางรายนี้ขึ้นมาอีกไม่ และการที่จำเลยจะได้สิทธิในสวนยางรายนี้ตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวเพียงไรหรือไม่นั้นก็ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้
สำหรับข้อเท็จจริง คดีมีเหตุผลว่าโจทก์ได้สละสิทธิในสวนยางให้แก่จำเลยดังศาลล่างทั้ง ๒ ได้วินิจฉัยไว้โดยละเอียดแล้ว
จึงพิพากษายืน