คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6794/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชื่อประเภทของสินค้าที่แปลไม่ถูกต้องที่โจทก์ได้กล่าวมาในคำฟ้องและระบุไว้ในคำแปลท้ายฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญอันเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทในคดี การขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์ในส่วนดังกล่าวไม่เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนทุนทรัพย์หรือเพิ่มหรือลดข้อหาในคำฟ้องเพียงแต่เป็นการแก้ไขคำฟ้องเดิมที่ผิดพลาดเพราะการแปลข้อความภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย เพื่อให้ข้อความถูกต้องตรงกับความเป็นจริงตามข้อความในต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ทั้งไม่ทำให้ผลทางกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป จึงถือได้ว่าเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย ซึ่งโจทก์อาจขอแก้ไขในเวลาใด ๆ ก็ได้ ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 180 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันชำระเงินจำนวน 56,791,051 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน 32,729,743.48 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งเจ็ดไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 1 และทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งเจ็ดออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 และที่ 5 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ระหว่างการพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หลังจากทำการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้น และสืบพยานจำเลยที่ 1 แล้ว 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องว่า หลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วโจทก์พบว่า โจทก์ได้แปลคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตและสัญญาทรัสต์รีซีทผิดพลาดไป ขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับเลตเตอร์ออฟเครดิตทั้งแปดฉบับเฉพาะส่วนที่เป็นชื่อประเภทของสินค้าคือ คำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตฉบับที่ 1 ข้อความที่ว่า เหรียญโลหะทาสี เหรียญโลหะกัลวาไนซ์ และเหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็น เหล็กม้วนเคลือบสี สังกะสีชุบ และเหล็กม้วนสแตนเลส ฉบับที่ 2 ข้อความที่ว่าเหรียญโลหะทาสี ขอแก้ไขเป็น แผ่นเหล็กม้วนเคลือบสี ฉบับที่ 3 ข้อความที่ว่า อุปกรณ์เหล็กสำหรับป้องกันมิให้แก๊สรั่ว ขอแก้ไขเป็น เหล็กกล้าผสมและปะเก็น ฉบับที่ 4 และที่ 5 ข้อความที่ว่า เหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็นสแตนเลสม้วนเป็นขด ฉบับที่ 6 ข้อความที่ว่าอุปกรณ์เหล็กสำหรับป้องกันไม่ให้แก๊สรั่ว ขอแก้ไขเป็น เหล็กกล้า ไนลอน เหล็กผสม และปะเก็น ฉบับที่ 7 ข้อความที่ว่า เหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็น เหล็กสแตนเลส และฉบับที่ 8 ข้อความที่ว่า เหรียญโลหะทาสี ขอแก้ไขเป็น เหล็กไม่เคลือบสีม้วนเป็นแผ่นยาวเล็ก และขอแก้ไขคำฟ้องในส่วนที่เกี่ยวกับสัญญาทรัสต์รีซีททั้งแปดฉบับ เฉพาะส่วนที่เป็นประเภทของสินค้าคือ สัญญาทรัสต์รีซีท ฉบับที่ 1 ข้อความที่ว่า เหรียญโลหะทาสี ขอแก้ไขเป็น เหล็กกล้าไม่เคลือบสีม้วน ฉบับที่ 2 ข้อความที่ว่า เหรียญโลหะทาสี ขอแก้ไขเป็นเหล็กกล้าไม่เคลือบสีเป็นม้วน ฉบับที่ 3 ข้อความที่ว่า อุปกรณ์เหล็กกล้าสำหรับป้องกันมิให้แก๊สรั่ว ขอแก้ไขเป็น เหล็กกล้าผสม และปะเก็น ฉบับที่ 4 ข้อความที่ว่า เหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็นสแตนเลสม้วนเป็นขด ฉบับที่ 5 ข้อความที่ว่า เหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็น เหล็กสแตนเลสเป็นขด ฉบับที่ 6 ข้อความที่ว่า อุปกรณ์ป้องกันแก๊สรั่วเป็นเหล็กในล่อน และโลหะ ข้อแก้ไขเป็น เหล็กกล้า ไนล่อน เหล็กผสม และปะเก็น ฉบับที่ 7 ข้อความที่ว่า เหรียญสแตนเลส ขอแก้ไขเป็น เหล็กสแตนเลสเป็นม้วน และฉบับที่ 8 ข้อความที่ว่า เหรียญโลหะทาสี ขอแก้ไขเป็น เหล็กไม่เคลือบสีม้วนเป็นแผ่นยาวเล็ก และขอแก้ไขคำแปลคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตฉบับที่ 1 ถึงฉบับที่ 8 และสัญญาทรัสต์รีซีทฉบับที่ 1 ถึงฉบับที่ 8 เฉพาะข้อความเกี่ยวกับประเภทของสินค้า โดยโจทก์ได้แนบคำแปลที่ถูกต้องมาพร้อมคำร้องดังกล่าวด้วยแล้ว การขอแก้ไขคำฟ้องนี้เป็นการขอแก้ไขข้อเท็จจริงให้ตรงกับความเป็นจริง ไม่ก่อให้เกิดผลตามกฎหมายแตกต่างกัน ไม่ทำให้จำเลยทั้งเจ็ดเสียเปรียบ และสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องในชั้นสืบพยานจำเลย โดยโจทก์ควรทราบถึงเหตุและพฤติการณ์ที่จะขอแก้ไขคำฟ้องก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งข้อเท็จจริงที่ขอแก้ไขก็ปรากฏขึ้นจากคำเบิกความของพยานจำเลยด้วย กรณีไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้อง ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า การแก้ไขคำฟ้องนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 บัญญัติว่า การแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การที่คู่ความเสนอต่อศาลไว้แล้วให้ทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลก่อนวันชี้สองสถาน หรือก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันในกรณีที่ไม่มีการชี้สองสถาน เว้นแต่มีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนนั้น หรือเป็นการขอแก้ไขในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย และบทบัญญัติดังกล่าวให้นำมาใช้ในกระบวนพิจารณาในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศด้วยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ดังนั้น ชื่อประเภทของสินค้าที่แปลไม่ถูกต้องที่โจทก์ได้กล่าวมาในคำฟ้องและระบุไว้ในคำแปลท้ายฟ้อง จึงไม่ใช่สาระสำคัญอันเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทในคดี การขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์ในส่วนดังกล่าวไม่เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนทุนทรัพย์หรือเพิ่มหรือลดข้อหาในคำฟ้องเพียงแต่เป็นการแก้ไขคำฟ้องเดิมที่ผิดพลาดเพราะการแปลข้อความภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย เพื่อให้ข้อความถูกต้องตรงกับความเป็นจริงตามข้อความในต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ทั้งไม่ทำให้ผลทางกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป จึงถือได้ว่าเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย ซึ่งโจทก์อาจขอแก้ไขในเวลาใด ๆ ก็ได้ ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา ตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้นจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องดังกล่าว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้ตามคำร้องของโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share