คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6745/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำร้องของจำเลยทั้งสองที่ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้งดการบังคับคดีและรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองไว้ก่อนจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการขอให้พิจารณาใหม่นั้นแท้จริงแล้วเนื้อหาของคำร้องเป็นเรื่องการขอทุเลาการบังคับในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ไม่ใช่เป็นเรื่องงดการบังคับคดีแม้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งมาในเรื่องงดการบังคับคดีก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของศาลอุทธรณ์นั่นเองกรณีเช่นนี้เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประการใดแล้วก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ซึ่งกฎหมายไม่ประสงค์จะให้ศาลฎีกาไปเกี่ยวข้องกับการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์การขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา231ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา153จึงเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษไม่อยู่ในบังคับแห่งการอุทธรณ์และฎีกาอย่างเรื่องอื่นๆดังนั้นฎีกาจำเลยทั้งสองที่ว่าหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการบังคับคดีและรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองไปก่อนแล้วและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใหม่จำเลยทั้งสองจะได้รับความเสียหายทั้งหนี้ที่โจทก์นำมาเป็นมูลฟ้องคดีนี้ยังไม่อาจกำหนดจำนวนได้แน่นอนและเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ซึ่งเป็นฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องทุเลาการบังคับจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายจำเลยทั้งสองไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างเหตุว่าไม่ได้จงใจขาดนัดศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดและไม่มีเหตุสมควรยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ และยื่นคำร้องของดการบังคับคดีไว้จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาเกี่ยวกับการขอให้พิจารณาใหม่
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องที่ของดการบังคับคดีของจำเลยทั้งสอง
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องของดการบังคับคดีของจำเลยทั้งสองที่ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้งดการบังคับคดีและรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองไว้ก่อนจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการขอให้พิจารณาใหม่ แท้จริงแล้วโดยเนื้อหาของคำร้องเป็นเรื่องการขอทุเลาการบังคับในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์หาใช่เป็นเรื่องงดการบังคับคดีแต่อย่างใดไม่ แม้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งมาในเรื่องงดการบังคับคดี ก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของศาลอุทธรณ์นั่นเอง กรณีเช่นนี้เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งประการใดแล้วก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ ซึ่งกฎหมายไม่ประสงค์จะให้ศาลฎีกาไปเกี่ยวข้องกับการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ การขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 จึงเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษไม่อยู่ในบังคับแห่งการอุทธรณ์และฎีกาอย่างเรื่องอื่น ๆ ดังนั้น ฎีกาจำเลยทั้งสองที่ว่าหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการบังคับคดีและรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองไปก่อนแล้ว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใหม่จำเลยทั้งสองจะได้รับความเสียหายทั้งหนี้ที่โจทก์นำมาเป็นมูลฟ้องคดีนี้ยังไม่อาจกำหนดจำนวนได้แน่นอน และเป็นหนี้ที่ไม่อาจรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ ซึ่งเป็นฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องทุเลาการบังคับ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายก ฎีกา จำเลย ทั้ง สอง

Share