คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีซึ่งเป็นจำเลยร่วมโอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากกินแบ่งในนามส่วนราชการให้ภริยาซึ่งเป็นจำเลยทำการค้าขายมาประมาณ 20 ปีโดยในการค้าสลากกินแบ่งนั้น ภริยามีสิทธิที่จะพิจารณาได้เองตลอดจนการหาเงินจ่ายค่าสลากกินแบ่งย่อมเป็นเรื่องภริยาทำกิจการค้าขายแยกเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก(โดยได้รับอนุญาตจากสามี) การที่ภริยาจะเสาะแสวงหาจำนวนสลากกินแบ่งมาค้าขายหรือจำหน่ายจำนวนสลากกินแบ่งนั้นไปอยู่ในวิสัยที่ภริยาจะทำได้ดังนั้น การที่ภริยาตกลงโอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากกินแบ่งให้บุคคลภายนอกไปบางส่วนโดยได้รับค่าตอบแทนจึงอยู่ภายในขอบเขตแห่งกิจการค้าขายของภริยาแม้จะมิได้รับอนุญาตจากสามีอีกชั้นหนึ่งสามีก็หามีสิทธิบอกล้างไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ค้าขายสลากกินแบ่งของรัฐบาลในนามสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จำนวน 236 เล่ม ได้ตกลงโอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายให้โจทก์ 200 เล่มโดยคิดค่าเปลี่ยนมือ 200,000 บาท โจทก์ได้จ่ายเงินมัดจำให้จำเลยไว้แล้ว 30,000 บาทและจำเลยได้ออกเช็คเท่าเงินมัดจำให้โจทก์ยึดถือเป็นประกัน แต่แล้วจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลง ขอให้บังคับจำเลยเปลี่ยนผู้แทนจากจำเลยเป็นโจทก์ โดยรับค่าเปลี่ยนมือจากโจทก์อีก 170,000 บาท หากละเลย ให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาหากไม่อาจปฏิบัติได้ ให้จำเลยคืนเงินมัดจำพร้อมกับใช้ค่าเสียหาย 145,600 บาท ส่วนเช็คของจำเลย โจทก์พร้อมที่จะคืน

จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่เคยตกลงโอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากให้โจทก์ เพียงจำเลยแสดงความจำนงจะเปลี่ยนผู้แทนแต่สามีจำเลยมีหนังสือบอกล้างแล้ว โจทก์เป็นลูกค้าย่อมรับช่วงสลากกินแบ่งจากจำเลยไปจำหน่าย และค้างชำระค่าส่วนลด 16,800 บาท จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินดังกล่าว

นายยิ่ง รัศมิทัต สามีจำเลยร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมและร่วมฟ้องแย้งด้วย ศาลอนุญาต

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยค้าสลากกินแบ่งมานานแล้วจำเลยร่วมซึ่งเป็นสามีบอกล้างการโอนสิทธิมิได้ และโจทก์เป็นผู้ออกเงินซื้อสลากเงินส่วนลดจึงตกเป็นของโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองยินยอมเปลี่ยนการเป็นผู้แทนทำการค้าสลากกินแบ่งของรัฐบาลในนามของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจำนวน200 เล่ม จากจำเลยเป็นโจทก์ โดยให้โจทก์ชำระเงินค่าเปลี่ยนมือแก่จำเลยอีก 170,000 บาท พร้อมคืนเช็คที่จำเลยมอบไว้เป็นประกัน หากจำเลยไม่ยินยอมเปลี่ยนการเป็นผู้แทน ให้ถือผลคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน แต่ถ้าสำนักงานสลากกินแบ่งขัดข้องการโอน ก็ให้จำเลยคืนเงินมัดจำ 30,000 บาทพร้อมค่าเสียหาย 145,600 บาท แก่โจทก์ ให้ยกฟ้องแย้ง

จำเลยและจำเลยร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยและจำเลยร่วมฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยตกลงโอนสิทธิการเป็นผู้แทนค้าสลากกินแบ่ง 200 เล่มให้โจทก์จริง โดยจำเลยได้รับเงินมัดจำไว้ 30,000 บาท มิใช่เงินยืม ฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่าโจทก์ไม่ชำระค่าส่วนลดฟังไม่ขึ้น

ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยร่วมอนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นภริยาทำการค้านั้นหมายถึงการกระทำทั้งหลายอันเป็นปกติธุระในการค้า แต่เรื่องจำเลยยินยอมโอนสิทธิให้โจทก์ หาใช่ปกติธุระในการค้าไม่ แต่เป็นการขายหรือจำหน่ายสิทธิ จะต้องมีการยินยอมอนุญาตอีกครั้งหนึ่งนั้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ได้ความว่า จำเลยร่วมได้โอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากกินแบ่งให้จำเลยผู้เป็นภริยาทำการค้าขายสลากกินแบ่งมาราว 20 ปีเศษ จำเลยร่วมเบิกความว่า เหตุที่โอนเพราะมีงานมาก ในการค้าสลากเป็นสิทธิของจำเลยที่จะพิจารณาได้เองตลอดจนค่าสลากก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะไปหาเบิก จึงเป็นเรื่องจำเลยทำกิจการค้าขายแยกเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก การที่จำเลยจะไปเสาะแสวงหาจำนวนสลากมาขายหรือจำหน่ายจำนวนสลากนั้นไป ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะทำได้ ดังนั้น การที่จำเลยตกลงโอนสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากกินแบ่งให้โจทก์ 200 เล่ม คงไว้จำหน่ายเอง36 เล่ม จึงอยู่ในขอบเขตแห่งกิจการค้าขายของจำเลย จำเลยร่วมหามีสิทธิบอกล้างไม่

พิพากษายืน

Share