แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
หลังจากที่ทำการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยจนมีการตกลงซื้อขายกันแล้วจำเลยจึงเข้าไปเอาเมทแอมเฟตามีน 400 เม็ด จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาส่งให้ผู้ล่อซื้อในประเทศไทย และถูกจับขณะมีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนทั้งจำนวนดังกล่าวในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5)ฯมาตรา 8 และมาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 15,65 และมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ และให้ใช้ความใหม่แทน แต่ความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายนั้น ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่มาตรา 15 วรรคสาม(2),65 วรรคสอง และกฎหมายเดิมมาตรา 15 วรรคหนึ่ง,65วรรคสอง ต่างมีองค์ประกอบความผิด และมีระวางโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียวจึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบังคับ และแม้ความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่มาตรา 66 วรรคสอง จะแตกต่างจากกฎหมายเดิมในมาตรา 66 วรรคหนึ่ง โดยโทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่าแต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยในความผิดฐานจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ซึ่งกฎหมายเดิมมีระวางโทษเช่นเดียวกับกฎหมายที่แก้ไขใหม่ กรณียังคงต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายเดิมเพียงบทเดียว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนที่หลบหนีร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 400 เม็ด น้ำหนักรวม38.448 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 8.462 กรัม เพื่อจำหน่ายและจำเลยกับพวกร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวไว้ในครอบครองของจำเลยกับพวกเพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จากนั้นจำเลยกับพวกจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวน396 เม็ด น้ำหนักรวม 38.086 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 8.386 กรัม อันเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยกับพวกมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อในราคา 16,000 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เป็นความผิดจำนวน400 เม็ด และเรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์เรือ 1 ลำ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยกับพวกร่วมกันใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 67, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 33, 32 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์และเรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 400 เม็ดไว้ในครอบครอง แต่ข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคสอง, 66 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกมาตรา 102 ด้วย)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันเรียงกระทงลงโทษทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ลงโทษประหารชีวิตฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนประกอบกับคำให้การและทางนำสืบของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบกับมาตรา 52(2) ฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย จำคุก 30 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำคุก 5 ปี รวมลงโทษจำคุก 35 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์และเรือหางยาว พร้อมเครื่องยนต์ของกลาง ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ตามที่จำเลยรับสารภาพและโจทก์นำสืบว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนจำนวน 400 เม็ด สำหรับความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคหนึ่ง คดีมีปัญหาว่า จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวเพื่อจำหน่ายและการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนหรือไม่ โจทก์มีร้อยตำรวจเอกสัญญา แสงทอง เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดในการจับกุมมาเบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน พยานได้รับแจ้งจากสายลับว่าจำเลยกับนายหมั่นราษฎรซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีพฤติการณ์นำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาจำหน่ายยังประเทศไทย จึงวางแผนให้พลตำรวจนวพนธ์ ฝุ่นเงิน ไปล่อซื้อกับสายลับในที่สุดมีการตกลงซื้อขายกันจำนวน 10 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 2,000 เม็ด ในราคาถุงละ 8,000บาท กำหนดส่งมอบในวันรุ่งขึ้นอันเป็นวันเกิดเหตุเวลา 12 นาฬิกา ที่บริเวณป่าละเมาะห้วยบางทรายซึ่งอยู่ริมแม่น้ำโขง ร้อยตำรวจเอกสัญญาจึงวางแผนจับกุมโดยมอบเงินให้พลตำรวจนวพนธ์ จำนวน 80,000 บาท และให้สิบตำรวจเอกสุทธิศักดิ์ สอนสะอาดกับสิบตำรวจโทนิรัน ทะวะระ ใช้กล้องส่องทางไกลไปซุ่มดูอยู่ปากห้วยบางทรายห่างจากจุดนัดส่งมอบของประมาณ 50 เมตร และมีสิบตำรวจโทสมนึก กุหลาบโชติ ไปซุ่มดูห่างจุดซื้อขายประมาณ 20 เมตร ที่เหลือนอกนั้นให้อยู่รายรอบบริเวณป่าละเมาะครั้นถึงเวลานัดสิบตำรวจเอกสุทธิศักดิ์แจ้งมาทางวิทยุว่าเห็นชาย 2 คนนั่งเรือหางยาวมาจากฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อเข้ามาใกล้จึงเห็นว่าเป็นจำเลยกับนายหมั่น แต่เมื่อใกล้จุดนัดพบทั้งสองคนกลับขับเรือข้ามกลับไปยังฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้นเวลาผ่านไปอีกประมาณ 30 นาที จึงเห็นจำเลยผู้เดียวขับเรือจากฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวขึ้นมายังจุดนัดพบเพียงลำพังและหลังจากที่มีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 ถุงให้พลตำรวจนวพนธ์แล้วปรากฏว่าจำเลยไหวตัวทันสามารถกระโดดหนีลงน้ำห้วยบางทราย แต่ในที่สุดก็ถูกจับได้ในลำห้วยโดยมีพลตำรวจนวพนธ์มาเบิกความสนับสนุนว่า หลังรับมอบเมทแอมเฟตามีน จำนวน 2 ถุง จากจำเลย ขณะกำลังตรวจนับถุงที่สอง จำเลยไหวตัวเพราะพวกที่ซุ่มดูเหยียบกิ่งไม้ และมีสิบตำรวจเอกสุทธิศักดิ์กับสิบตำรวจโทนิรันที่เฝ้าดูโดยใช้กล้องส่องทางไกลยืนยันว่าเห็นตั้งแต่จำเลยนั่งเรือมากับนายหมั่นเพื่อดูลาดเลาก่อนที่จำเลยจะขับเรือจากฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกลับมายังฝั่งประเทศไทยตามลำพังโดยเห็นนายหมั่นมอบถุงสีฟ้าซึ่งมีลักษณะตรงกับถุงที่บรรจุเมทแอมเฟตามีนที่จับได้ให้จำเลยด้วย เห็นว่า คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจมีการสืบทราบและวางแผนจับกุมมาก่อน พยานโจทก์ทุกปากเบิกความสอดคล้องต้องกันถึงการเห็นจำเลยขับเรือมาที่จุดนัดพบรวม 2 ครั้ง โดยพยานทุกปากเบิกความเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของจำเลยตรงกันอย่างไม่มีพิรุธ ตามแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ เอกสารหมาย จ.4จากจุดที่สิบตำรวจเอกสุทธิศักดิ์ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปยังฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโขงซึ่งไม่ปรากฏว่ามีอะไรบ้าง ทั้งเป็นเวลากลางวัน ความสามารถในการมองเห็นย่อมมีสูง ข้อสำคัญคือเจ้าพนักงานตำรวจยังยึดเรือหางยาวได้ 1 ลำ ซึ่งจำเลยก็นำสืบเจือสมว่ามีเรือมาเกี่ยวข้องด้วย ข้อเท็จจริงจึงเชื่อได้ว่า จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ที่จำเลยยกขึ้นอ้างในฎีกาว่า พยานโจทก์เป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจเดียวกันและทำงานในชุดเดียวกัน มีประสบการณ์ในการเบิกความ จึงมีโอกาสซักซ้อมคำเบิกความให้ตรงกันทำให้พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักไม่เพียงพอ เห็นว่า หากไม่เป็นความจริงแล้วย่อมยากที่พยานโจทก์จะเบิกความสอดคล้องต้องกันหลายปาก คำเบิกความจึงสมเหตุผลและหาเป็นพิรุธไม่ คงมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยในประการสุดท้ายว่า การจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของจำเลยเป็นเพียงขั้นพยายามเพราะยังไม่มีการชำระเงินหรือไม่ เห็นว่าพลตำรวจนวพนธ์ผู้ล่อซื้อยืนยันว่ารับมอบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 ถุงจากจำเลยก่อนที่จำเลยจะไหวตัวทันถือว่าเป็นความผิดฐานจำหน่ายสำเร็จแล้ว แม้จะยังไม่ได้รับชำระเงินก็ตาม ส่วนที่สิบตำรวจโทนิรันเบิกความว่าขณะจะมีการจ่ายเงิน เมื่อจำเลยสังเกตเห็นพวกที่ซุ่มดูจึงแย่งเมทแอมเฟตามีนบางส่วนกระโดดลงริมห้วย ก็แสดงว่าจำเลยได้ส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้แก่พลตำรวจนวพนธ์ผู้ล่อซื้อแล้วหาใช่ยังไม่ได้ส่งมอบไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ดีข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการล่อซื้อจนมีการตกลงซื้อขายกันแล้วในวันนัด จำเลยจึงข้ามไปนำเอาเมทแอมเฟตามีนจำนวน 400 เม็ด จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาส่งให้ผู้ล่อซื้อในประเทศไทย และถูกจับขณะมีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนทั้งจำนวนดังกล่าวในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 หาใช่เป็นการกระทำความผิดสองกรรมต่างกันดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยไม่ ปัญหานี้แม้จำเลยจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225
อนึ่ง แม้ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาจะได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 8 และมาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 15 มาตรา 65และมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน แต่ในความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายนั้นทั้งตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่มาตรา 15 วรรคสาม(2), 65 วรรคสอง และกฎหมายเดิมมาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคสอง ต่างมีองค์ประกอบความผิดและมีระวางโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียว จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบังคับและแม้ในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 8.462 กรัมไม่เกิน 20 กรัม ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ มาตรา 66 วรรคสอง กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงห้าล้านบาท แตกต่างจากกฎหมายเดิมในมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ที่ให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท กรณีโทษจำคุกจึงต้องถือว่ากฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยในความผิดฐานนี้เป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายซึ่งกฎหมายเดิมมีระวางโทษเช่นเดียวกับกฎหมายที่แก้ไขใหม่ กรณียังคงต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายเดิมเพียงบทเดียว”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 65 วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่)ความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 65 วรรคสอง (เดิม)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนประกอบคำให้การและทางนำสืบของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาล อันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52(2) คงจำคุก30 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4