คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6729/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารและสถานบริการชื่อ บ. คาราโอเกะ และ ป. คันทรีคลับ เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับใบอนุญาต เนื่องจากการจะได้รับอนุญาตหรือไม่ ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานบริการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตต้องเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 หากผู้ใดฝ่าฝืนตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตต้องรับโทษตามมาตรา 26 ทั้งไม่มีบทบัญญัติอนุญาตให้มีการโอนใบอนุญาตแก่กันได้ แม้โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในใบอนุญาตฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินเพราะเป็นสินสมรสของโจทก์จำเลยที่ประกอบธุรกิจขณะเป็นสามีภริยากัน แต่การที่จำเลยได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาต ตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวที่ไม่ประสงค์ให้โอนใบอนุญาตกัน โจทก์ไม่อาจฟ้องบังคับให้ลงชื่อโจทก์ในใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาให้โจทก์มีชื่อร่วมในใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการและมีอำนาจในการขอต่อใบอนุญาต บัดดี้ คาราโอเกะและปีกไม้คันทรีคลับเป็นรายปีทุกปีแต่ฝ่ายเดียว
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้น เห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากัน ในระหว่างสมรสโจทก์และจำเลยร่วมกันประกอบกิจการร้านอาหารและสถานบริการชื่อ บัดดี้ คาราโอเกะ และปีกไม้คันทรีคลับ โดยจำเลยเป็นผู้ขอและได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ต่อมาโจทก์จำเลยหย่าขาดจากกัน จำเลยไม่ขอต่อใบอนุญาต โจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยไม่ดำเนินการให้
มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลจะสั่งให้ลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของรวมในใบอนุญาตตั้งสถานบริการทั้งสองแห่ง และให้โจทก์มีอำนาจในการจัดการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการขอต่อใบอนุญาตได้หรือไม่ เห็นว่า ใบอนุญาตเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับใบอนุญาต เนื่องจากการจะได้รับอนุญาตหรือไม่ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานบริการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตจะต้องเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 หากผู้ใดฝ่าฝืนตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องรับโทษตามมาตรา 26 ทั้งตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติอนุญาตให้มีการโอนใบอนุญาตให้แก่กันได้ แม้จะฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการซึ่งเป็นทรัพย์สินเพราะเป็นสินสมรสของโจทก์จำเลยที่ประกอบธุรกิจขณะเป็นสามีภริยากัน แต่การที่จำเลยได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาตตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติของกฎหมายที่ไม่ประสงค์ให้โอนใบอนุญาตกัน โจทก์จึงไม่อาจฟ้องขอให้บังคับให้โจทก์มีชื่อร่วมในใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการบัดดี้ คาราโอเกะ และปีกไม้คันทรีคลับ และให้โจทก์มีอำนาจในการขอต่อใบอนุญาตแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share