แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โจทก์เด็ดขาดแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจเข้าว่าคดีแพ่งเรื่องนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 22 และ 25 โดยโจทก์ไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาหรือเข้าว่าคดีแพ่งเรื่องนี้ได้อีก แต่ปรากฎว่าโจทก์ยังคงเป็นผู้ดำเนินกระบวนพิจารณาและเข้าว่าคดีนี้ในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จนกระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาคดีนี้ไปแล้วแม้ต่อมาศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของโจทก์แต่โจทก์ก็ได้ทราบถึงข้อที่โจทก์ไม่มีอำนาจดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นรวมตลอดจนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22และ 25 และปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยที่ 2 จะเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ได้ และให้ยกการดำเนินกระบวนพิจารณาให้ศาลชั้นต้นรวมตลอดจนคำพิพากษาศาลชั้นต้น และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่แล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 1138 โดยโจทก์ซื้อจากนายเลิศ ชนะฤทธิ์ และนางขำ แสงเจือเมื่อปี 2527 แต่โจทก์ใส่ชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแทน เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2533 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 1 ออกจากโฉนดที่ดินเพื่อใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดิน ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ยกฟ้องเพราะไม่อาจบังคับตามคำขอของโจทก์ได้ในขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาจำเลยที่ 1 ได้แสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับจำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองเพิกถอนชื่อออกจากโฉนดที่ดินที่ 1138 แล้วใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน หากจำเลยทั้งสองไม่ปฎิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสองและหากปฎิบัติไม่ได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าที่ดิน2,000,000 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวโดยซื้อจากนายเลิศ ชนะฤทธิ์ และนางขำ แสงเจือไม่ใช่โจทก์เป็นผู้ซื้อ ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 900,000 บาทแก่โจทก์ ยกฟ้องจำเลยที่ 1 คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง ให้จำเลยที่ 2ดำเนินการร้องขอต่อเจ้าพนักงานที่ดินให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 2จากโฉนดที่ดินพิพาทและใส่ชื่อโจทก์แทน หากไม่ปฎิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 2 หากปฎิบัติไม่ได้ให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าที่ดิน 2,000,000 บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเดิมโจทก์ใช้ชื่อและนามสกุลว่า “นายจิรศักดิ์ จำปาขาว” ต่อมาเมื่อวันที่ 12 และ 31 ตุลาคม 2531 โจทก์เปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็น “นายปิยะ ทรรพนันทน์” โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2534 ธนาคาร “นครหลวงไทย” จำกัด ฟ้องโจทก์ขอให้เป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2536 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โจทก์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2536และมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของโจทก์เมื่อวันที่ 13พฤษภาคม 2537 เห็นว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โจทก์เด็ดขาดแล้ว คือตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2536 เป็นต้นไปเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจเข้าว่าคดีนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 และ 25 โจทก์ไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาหรือเข้าว่าคดีนี้ได้อีกแต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่าโจทก์ยังคงเป็นผู้ดำเนินกระบวนพิจารณาและเข้าว่าคดีนี้ตลอดจนกระทั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของโจทก์เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2537 โดยไม่ปรากฎว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีแทนโจทก์ และตามพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าโจทก์ทราบถึงข้อที่โจทก์ไม่มีอำนาจดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2536 เป็นต้นไปรวมตลอดจนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 และ 25 ปัญหาดังกล่าว เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยที่ 2 จะเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ได้
พิพากษายกการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2536 เป็นต้นไป รวมตลอดจนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ แล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี