คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกันเกี่ยวพันกันหรือต่อเนื่องกันกับความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควรและฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวตามความหมายในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ

ย่อยาว

ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ศาลแขวงสั่งรับฟ้องไว้แล้ว ต่อมาเมื่อพนักงานอัยการได้รับสำนวนจากศาลแขวงเห็นว่า จำเลยควรมีความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้เกิดความตกใจกลัวด้วย พนักงานอัยการจึงฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัด ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานความผิดทั้งสามนั้น โดยถือว่าเป็นความผิดที่มีข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันและต่อเนื่องจากข้อเท็จจริงในความผิดที่ศาลแขวงได้สั่งรับฟ้องไว้แล้ว

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษเฉพาะฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตส่วนข้อหาฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณะและฐานขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวพันหรือต่อเนื่องกับฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต ฉะนั้น เมื่อศาลแขวงมิได้ไต่สวนมูลฟ้องในสองฐานนี้ไว้ อัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายนี้เช่นเดียวกันกับศาลชั้นต้น

Share